ยอดติดเชื้อ‘โควิด’ทั่วโลก 4.3 ล้าน ตาย 2.9 แสน เตือนสหรัฐเปิดเมืองเร็ว ตายพุ่ง

แฟ้มภาพ

จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 ในสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุดพุ่งสูงทะลุ 1.4 ล้านคนแล้ว โดยใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ 22,321 คน ทำให้ยอดรวมของผู้ติดเชื้อในสหรัฐอยู่ที่ 1,408,155 คน

นอกจากนี้ในหนึ่งวันที่ผ่านมายอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐก็เพิ่มขึ้นอีก 1,582 ราย ทำให้ยอดรวมขณะนี้อยู่ที่ 83,377 ราย

การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำสถิติใหม่ของสหรัฐมีขึ้นขณะที่รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงพยายามผลักดันให้มีการเปิดเมืองโดยเร็วเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แม้จะมีเสียงเตือนให้ระมัดระวังว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดยิ่งเลวร้ายลงก็ตาม

ด้านจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้น 84,814 คนใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 4,337,104 คน โดยรองจากสหรัฐคือสเปนที่ 269,520 รัสเซีย 232,243 อังกฤษ 226,463 อิตาลี 221,216 ฝรั่งเศส 178,225 บราซิล 177,602 เยอรมนี 173,171 ตุรกี 141,475 และอิหร่าน 110,767

สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในหนึ่งวัน ตามด้วยรัสเซียที่ 10,899 บราซิล 8,459 อินเดีย 3,524 อังกฤษ 3,403 และเปรู 3,237

ส่วนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้วอยู่ที่ 1,596,767 คน

ทางด้านนายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อของสหรัฐ ซึ่งเป็นคนสำคัญในกลไกขับเคลื่อนการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของรัฐบาลสหรัฐ ออกมาเตือนว่าเมืองและรัฐต่างๆ อาจเห็นยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจมากขึ้น หากมีการยกเลิกมาตรการกักตัวอยู่ในบ้านพักรวดเร็วเกินไป

คำเตือนของนายแพทย์ฟอซีสวนทางกับนโยบายและความเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ที่ผลักดันและสนับสนุนให้มีการเปิดเมืองเพื่อแก้ไขผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นหลังมาตรการคุมเข้มด้วยการปิดเมืองและสั่งให้ประชาชนกักบริเวณอยู่ในบ้าน จนล่าสุดทำให้สหรัฐมีผู้ตกงานมากถึง 33.3 ล้านคนแล้ว

นายแพทย์ฟอซีย้ำระหว่างการให้ข้อมูลต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการของวุฒิสภาสหรัฐผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เนื่องจากเขายังอยู่ระหว่างการกักบริเวณตนเองว่า มันมีความเสี่ยงอย่างแท้จริงว่าเราอาจจะกระตุ้นให้เกิดการแพร่ระบาดที่เกินกว่าความสามารถในการควบคุม

นายแพทย์ฟอซีกล่าวด้วยว่า ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าแม้แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ดีที่สุด เมื่อเราผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มเราก็จะเจอกรณีการติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น และการดำเนินการที่เร็วเกินไปก็อาจทำให้เกิดผลที่เลวร้ายมากขึ้นตามมา ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้มีผู้บาดเจ็บและล้มตายทั้งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ยังจะส่งผลให้หนทางของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกลับทรุดลงไปอีกด้วย

ที่มา:มติชนออนไลน์