การท่องเที่ยวสิงคโปร์คาดปี 2567 นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับไปใกล้เคียงระดับก่อนโควิด เผยไตรมาสแรกต่างชาติเข้าสิงคโปร์ราว 2.5 แสนคน เป็นชาวไทยราว 5,700 คน เตรียมเสริมแกร่งตลาดเอเชีย โฟกัสตลาดระยะไกล พร้อมเปิดตัวแคมเปญ SingaporeReimagine
วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 นายจอห์น เกรกอรี่ คอนเซเซา ผู้อำนวยการบริหารการท่องเที่ยวสิงคโปร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา สิงคโปร์มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศ 246,121 คน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
แบ่งเป็นในเดือนมกราคม 57,167 คน เดือนกุมภาพันธ์ 67,759 คน และเดือนมีนาคม 121,195 คน สำหรับชาวไทยที่เดินทางไปเยือนสิงโปร์ในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา มีจำนวนประมาณ 5,700 คน
“ในสามเดือนแรกนักท่องเที่ยวมีจำนวนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และในเดือนเมษายนที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวก็เติบโตยิ่งขึ้นไปอีก และข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวจะได้รับการเผยแพร่เร็ว ๆ นี้” นายจอห์น กล่าว
สำหรับการตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวนั้น นายจอห์น กล่าวว่า ในปี 2565 นี้ ทางผู้บริหารการท่องเที่ยวสิงคโปร์ยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวเอาไว้ อีกทั้งเป็นเรื่องยากที่จะตั้งเป้าเมื่อกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ยังไม่ผ่อนคลายมาตรการเดินทางข้ามพรมแดนอย่างเสรี
แต่ในปีนี้สิงคโปร์จะต้องเร่งทำการโปรโมตการท่องเที่ยว และคาดว่าเริ่มกลับมาตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวที่ชัดเจนในปีหน้า
“หลายประเทศในเอเชียคาดว่าในปี 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวถึงจะกลับไปสู่ระดับเดียวกับก่อนโควิด-19 แต่เราคาดว่าปี 2567 นี้ สิงคโปร์นี้อาจมีจำนวนนักท่องเที่ยวใกล้เคียงกับก่อนโควิด-19 หรือราว 19.1 ล้านคนในปี 2562 ” นายจอห์น กล่าว
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวสิงคโปร์ จะผลักดันการเติบโตจากหลากหลายตลาด เริ่มต้นที่เสริมความแข็งแกร่งของตลาดเอเชีย จากนั้นจะเริ่มโฟกัสตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลมากขึ้น ส่วนในปัจจุบันตลาดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของสิงคโปร์ คือ จีน อินโดนีเซีย อินเดีย ตามลำดับ ส่วนประเทศไทยติดอยู่ใน 15 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนสิงคโปร์
นายจอห์น ประเมินว่า นักท่องเที่ยวชาวอาเซียนที่เดินทางไปเยือนสิงคโปร์เป็นกลุ่ม Re-visit สูงถึง 63% จึงใช้โอกาสที่สองปีที่ผ่านสิงคโปร์ได้มีการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เปิดตัวต่อสายตาชาวต่างชาติ ดังนั้น ความท้าทายของการท่องเที่ยวสิงคโปร์คือ ต้องทำการประชาสัมพันธ์เชิญชวนชาวไทยให้ไปเยือนสถานที่ใหม่ ๆ ที่คนไทยอาจยังไม่เคยได้ยิน แต่อาจเป็นสถานที่ที่ชาวท้องถิ่นรู้จักกันมานานแล้ว
นายโจ ชู ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวสิงคโปร์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวสิงคโปร์ประกาศแคมเปญ “SingapoReimagine” มุ่งเน้นการนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวและเรื่องราวใหม่ๆ ในสิงคโปร์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้สัมผัสกับประสบการณ์หลากหลาย ผ่าน 4 แง่มุมที่สิงคโปร์ต้องการนำเสนอ อันได้แก่
1. ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainability) มุ่งเป็นเมืองในธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยว, อาหารการกิน, กิจกรรมช็อปปิ้ง และรูปแบบการท่องเที่ยว ก็จะต้องสอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างเมืองที่มีคุณภาพด้านสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน
2. ด้านสุขภาพที่ดี (Wellness) สิงคโปร์ให้ความสำคัญต่อการมีสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ จึงส่งเสริมให้นักท่องเที่ยว ได้รับประสบการณ์ที่ช่วยผ่อนคลายหรือสร้างความสดชื่น พร้อมการฟื้นฟูสุขภาพให้ดียิ่งขึ้นในขณะท่องเที่ยว ราวกับว่าได้มีโอกาส “ชาร์จแบตฯ ให้ชีวิต” อีกครั้ง
3. ด้านประสบการณ์อาหารที่หลากหลาย (Food & Dining) สิงคโปร์คือแหล่งรวมความหลากหลายของอาหารตั้งแต่ระดับสตรีทฟู้ดไปจนถึงไฟน์ไดนิ่ง และการหลอมรวมวัฒนธรรมอาหารจากหลากเชื้อหลายชาติที่ซ่อนอยู่ในทุกจาน พร้อมทั้งมีการนำอาหารที่มีรูปแบบที่แปลกใหม่น่าสนใจ
และ 4. ด้านสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าตื่นตาตื่นใจ (Novelty & Excitement) ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์สุดพิเศษที่จะเกิดขึ้นครั้งแรกในสิงคโปร์หรือมีเฉพาะที่สิงคโปร์เท่านั้น เช่น Green Common ศูนย์รวมอาหารแนวแพลนท์เบส, Palm Ave Float Club คลับแนวธรรมชาติและวารีบำบัด
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวสิงคโปร์ยังร่วมมือกับภาคเอกชนทั้งในและนอกประเทศสิงคโปร์ อาทิ สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ แอร์เอเชีย และกลุ่มสนามบินชางงี กลุ่มพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว อาทิ Klook, Traveloka, และ Trip.com เพื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจของสิงคโปร์ และเป็นการกระตุ้นและเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวเช่นกัน
