ปูตินไม่ง้อลูกค้ายุโรป ขายพลังงานจีน-อินเดีย รับทรัพย์ 2.4 หมื่นล้านดอลล์

ปูติน
Photo by Mikhail Metzel / SPUTNIK / AFP

3 เดือนหลังรัสเซียบุกยูเครน จีน-อินเดียซื้อพลังงานรัสเซียเพิ่มเป็นเงินกว่า 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นักวิเคราะห์จับตา คำสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันรัสเซียในยุโรปมีผลบังคับใช้ ดันยอดสั่งซื้อเพิ่มอีก

วันที่ 6 กรกฎาคม 2565 บลูมเบิร์ก รายงานระบุว่า รัสเซียได้เงินมากถึง 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 866,903 ล้านบาท จากการขายสินค้าพลังงานแก่จีนและอินเดีย ภายหลังบุกยูเครนได้ 3 เดือน สะท้อนเหตุราคาน้ำมันโลกพุ่งกระฉูด แม้จะมีความพยายามของสหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรปที่จะลงโทษวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย

โดยมีข้อมูลศุลกากรชี้ว่า จีนใช้เงิน 18,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินจากรัสเซีย ในช่วงเดือน ก.พ.-พ.ค. ที่ผ่านมา หรือ เพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ในช่วงเวลาเดียวกัน อินเดียใช้เงิน 5,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อพลังงานจากรัสเซีย และเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนมากถึง 5 เท่า

ทำให้รัสเซียมีรายได้พิเศษจากทั้ง 2 ประเทศอีก 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้า

จีน ซื้อ พลังงาน รัสเซีย
กราฟฟิก จากเวบไซต์ บลูมเบิร์ก

ยอดการสั่งซื้อจากจีนและอินเดียที่เพิ่มขึ้นช่วยชดเชยยอดการสั่งซื้อพลังงานจากสหรัฐอเมริกา และบางประเทศที่หยุด หรือ ชะลอ การซื้อพลังงานรัสเซีย ด้วยเป้าหมายลงโทษรัสเซียที่ก่อสงคราม

อย่างไรก็ตาม การแบนรัสเซียของชาติฝั่งตะวันตกกลับทำให้ราคาสินค้าพลังงานและวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ดันอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้น ซึ่งคุกคามเศรษฐกิจประเทศหลักให้เดินหน้าเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

“จีนกำลังซื้อทุกอย่างที่รัสเซียสามารถส่งออกได้ผ่านทางท่อและท่าเรือแปซิฟิก” ลอรี มิลลี่วิร์ตา หัวหน้านักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศบริสุทธิ์ ผู้ติดตามสถานการณ์พลังงานรัสเซีย ตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซียบุกยูเครน กล่าว

พร้อมกับระบุว่า ขณะเดียวกัน อินเดียก็กำลังเป็นผู้ซื้อสินค้ารายหลักของรัสเซียที่อยู่นอกเขตแอตแลนติกด้วย

ลอรี มิลลี่วิร์ตา วิเคราะห์ด้วยว่า รัสเซียน่าจะลิงโลดได้ต่อไป แม้ว่าราคาพลังงานโลกจะสูงขึ้นมาก แต่การให้ส่วนลดราคาพลังงานที่สูงลิ่วที่รัสเซียเสนอ 2 ประเทศดังกล่าว ก็ดึงดูดผู้ซื้อให้พิจารณาเพิ่มปริมาณคำสั่งซื้อ

หากดูข้อมูลการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียของจีนที่ยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ อินเดียก็มีแรงจูงใจให้ซื้อเพิ่มขึ้นในไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากสหภาพยุโรปห้ามน้ำเข้าน้ำมันจากรัสเซียใกล้มีผลบังคับใช้

“การซื้อของยุโรปจะยังคงหดตัวต่อไป เนื่องจากการห้ามนำเข้าถ่านหินและน้ำมันมีผลใช้บังคับ และในขณะที่รัสเซียตัดการจ่ายก๊าซให้กับผู้ซื้อในยุโรปบางราย” มิลลี่วิร์ตา กล่าว

สงคราม รัสเซีย-ยูเครน ปรับสมดุลการค้าน้ำมันครั้งใหญ่

แม้รัสเซียจะมีความสัมพันธ์ทางการค้าและเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับจีนและอินเดียมายาวนาน แต่หลังการบุกรุกยูเครน และการแซงก์ชั่นจากสหรัฐอเมริกาและยุโรป ทำให้รัสเซียเสนอราคาส่วนลดที่สูงมากให้จีน และอินเดีย พร้อมให้จ่ายเป็นเงินสกุลท้องถิ่น คือ หยวน และรูปี ในการซื้อขายพลังงานกับรัสเซียได้ด้วย

เพราะจีนเป็นผู้นำเข้าพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลกและมีท่อส่งน้ำมันและก๊าซในเขตไซบีเรียโดยเฉพาะ แม้ว่าการใช้พลังงานจะถูกจำกัดในช่วงครึ่งแรกของปี 2565เนื่องจากการล็อกดาวน์ แต่จีนใช้พลังงานจากรัสเซียมากขึ้นอย่างมาก

ขณะที่ หลังสงคราม อินเดียก็ใช้พลังงานจากรัสเซียมากขึ้นมากเช่นกัน เนื่องจากอินเดียไม่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย และโดยปกติท่าเรือของอินเดียอยู่ไกลเกินไปสำหรับการขนส่งแบบประหยัด แต่เนื่องจากราคาน้ำมันและถ่านหินที่พุ่งสูงขึ้น อินเดียยังนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวจากรัสเซีย เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่การรุกรานเริ่มขึ้น

“ในอดีต อินเดียใช้น้ำมันรัสเซียเพียงเล็กน้อย แต่สงครามในยูเครนและการห้ามส่งออกน้ำมันของรัสเซียโดยสหภาพยุโรป นำไปสู่การปรับสมดุลของกระแสการค้าน้ำมัน” เว่ย โช โฮ นักวิเคราะห์ของ Rystad Energy กล่าว

ขณะที่ นักวิเคราะห์พลังงานจับตาสถานการณ์การค้าน้ำมันและพลังงานโลกอีกครั้ง เมื่อคำสั่งแบนนำเข้าพลังงานจากรัสเซียในยุโรปจะมีผลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า