กรมเจ้าท่าเปิดแผนปั้น Maritime Hub 6 จังหวัดอันดามัน ปลุกลงทุนท่องเที่ยว

Maritime Hub
กรมเจ้าท่าพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและการขนส่งทางทะเล (Maritime Hub)

กรมเจ้าท่าลุยพัฒนากลุ่ม 6 จังหวัดภาคใต้ ฝั่งอันดามัน ปั้นศูนย์กลางท่องเที่ยว-ขนส่งทางทะเล (Maritime Hub) ตั้งเป้าศึกษา 2 ปี ก่อนดึงเอกชนลงทุน

วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการเปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าจะเริ่มการศึกษาพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและการขนส่งทางทะเล (Maritime Hub) และผุดโครงการท่าเรือมารีน่าชุมชน 1 จังหวัด 1 ท่า หรือทั้งหมด 6 ท่า ใน 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

โดยจะทำการศึกษาระหว่างปี 2566 ถึง 2567 รูปแบบการลงทุนในอนาคตเชื่อว่าเมื่อภาครัฐมีการชี้จุดพื้นที่เป้าหมาย ชัดเจน มีการอำนวยความสะดวก ในแง่ของข้อกฎหมายที่เอื้อต่อการลงทุน เอกชนที่มีศักยภาพ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อมก็สามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้

Maritime Hub
กรมเจ้าท่าพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและการขนส่งทางทะเล (Maritime Hub) และผุดโครงการท่าเรือมารีน่าชุมชน 1 จังหวัด 1 ท่า

ทั้งนี้ ลักษณะท่าเรือ จะเป็นเรือสำราญขนาดเล็ก รองรับเรือขนาด 30-40 ลำ หรือสูงสุดไม่เกิน 100 ลำ โดยจะมีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ด้วย

ที่ผ่านมา กรมเจ้าท่ามีแผนพัฒนาท่าเรือชายฝั่งอันดามันระหว่างปี 2561-2567 จำนวน 13 ท่า ดำเนินการแล้วเสร็จ 6 แห่ง ได้แก่ 1.ท่าเรือปากเมง จังหวัดตรัง (ท่องเที่ยวหมู่เกาะทะเลตรัง ถ้ำมรกต เกาะมุก เกาะกระดาน) 2.ท่าเรือสุระกุล จังหวัดพังงา (ท่องเที่ยวอ่าวพังงา เกาะปันหยี เขาพิงกัน เกาะเจมส์บอนด์ (เขาตะปู))

3.ท่าเรือเกาะลันตาใหญ่ 4.ท่าเรือศาลาด่านตั้งอยู่ที่เกาะลันตาน้อย (ท่องเที่ยวดำน้ำ และเชื่อมโยงไปยังเกาะพีพี เกาะรอก หาดปากเมง) 5.ท่าเรือสวนสาธารณะธารา 6.ท่าเรือท่าเล จังหวัดกระบี่ (สนับสนุนการเดินทางข้ามฟากระหว่างเทศบาลเมืองกระบี่ที่ท่าเรือสวนสาธารณะธารา ไปยังท่าเรือท่าเล ตั้งอยู่บนเกาะกลาง ตำบลคลองประสงค์ ที่มีชุมชนอาศัยอยู่ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและวิถีเกษตร)

ท่าเรืออยู่ระหว่างดำเนินการจะแล้วเสร็จภายในปี 2565 จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือปากคลองจิหลาด จังหวัดกระบี่ เป็นท่าเรือต้นทาง-ปลายทาง ไปยังเกาะพีพี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก

สมพงษ์ จิรศิริเลิศ
สมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการ

ส่วนแผนพัฒนาปี 2567-2569 จำนวน 6 แห่ง โดยมีท่าเรือ 4 แห่งอยู่ในเส้นทางเดินเรือขนส่งผู้โดยสารและรถยนต์ เชื่อมโยงจากจังหวัดกระบี่-พังงา-ภูเก็ต ร่นระยะเวลาเดินทางจากจังหวัดกระบี่ไปจังหวัดภูเก็ตลง 1.5 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับทางบก

ได้แก่ ต้นทางที่ท่าเรือเฟอร์รี่ท่าเลน จังหวัดกระบี่ ปลายทางที่ท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวปอ จังหวัดภูเก็ต และท่าเรือที่อยู่ในเส้นทาง ได้แก่ ท่าเรือมาเนาะห์ และท่าเรือช่องหลาด จังหวัดพังงา และมีแผนพัฒนาท่าเรืออีก 2 แห่ง ในจังหวัดกระบี่ ได้แก่ ท่าเรืออ่าวน้ำเมา และท่าเรือเกาะพีพี

ส่วนชายฝั่งทะเลอ่าวไทย กรมเจ้าท่า มีแผนพัฒนาท่าเรือชายฝั่งอ่าวไทยระหว่างปี 2563-2567 จำนวน 3 ท่า คือ อยู่ระหว่างดำเนินการจะแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2565 จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือปะทิว จังหวัดชุมพร (ท่องเที่ยวดำน้ำดูฉลามวาฬ ที่เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่)


ท่าเรือใหม่ที่จะแล้วเสร็จภายในปี 2566 จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ ท่าเรืออ่าวมะขามป้อม จังหวัดระยอง (ท่องเที่ยวเกาะมันนอก มันกลาง มันใน และเชื่อมโยงไปยังเกาะเสม็ด อันมีชื่อเสียงได้) รวมทั้งมีแผนพัฒนา 2566-2568 จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือเกาะกูดซีฟร้อนท์ จังหวัดตราด สนับสนุนการเดินทางและการท่องเที่ยวเชื่อมจากท่าเรือแหลมศอกไปยังเกาะกูด