เซเลนสกี เผยความในใจอยากคุยส่วนตัวกับ สี จิ้นผิง สงบศึกรัสเซีย

โวโลดีมีร์ เซเลนสกี
โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน (Photo by UKRAINIAN PRESIDENTIAL PRESS SERVICE / AFP)

เซเลนสกีให้สัมภาษณ์สื่อจีน เผยต้องการคุยตรงกับประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง หลังจากพยายามติดต่อหารือเป็นทางการมาหลายหน ชี้จีนช่วยยุติสงครามได้

วันที่ 4 สิงหาคม 2565 เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง รายงานสัมภาษณ์พิเศษ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ซึ่งเปิดเผยว่า เขาต้องการพูดคุยโดยตรงกับ สี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน เกี่ยวกับสงครามที่รัสเซียก่อขึ้น เนื่องจากยูเครนและจีนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาหลายปี ก่อนที่ความขัดแย้งนี้จะเกิดขึ้น

ผู้นำยูเครนเรียกร้องให้มหาอำนาจแห่งเอเชียใช้อิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจที่อยู่เหนือรัสเซีย เพื่อยุติสงครามนี้

หลังจากมีผู้เสียชีวิตจากสงครามแล้วอย่างน้อย 5,327 ราย บาดเจ็บ 7,257 คน ตามข้อมูลจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ (UNCHR) ณ วันที่ 1 ส.ค. 2565

“ผมต้องการคุยตรง เพราะผมเคยคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง เมื่อปีที่แล้ว และนับตั้งแต่สงครามขยายตัวขึ้นหลังวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา เราก็พยายามจะขอคุยอย่างเป็นทางการ แต่ก็ไม่เกิดขึ้น แม้เราจะเชื่อว่าการพูดคุยนี้จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น” เซเลนสกีกล่าว

และนี่คือครั้งแรกที่ประธานาธิบดียูเครนให้สัมภาษณ์กับสื่อเอเชีย นับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครน ปะทุขึ้น

เซเลนสกีหวังว่าจีนจะใช้แนวทางที่แตกต่างจากความขัดแย้ง และจนถึงขณะนี้ จีนก็ได้ต่อต้านการเซ็นเซอร์พันธมิตรทางเศรษฐกิจที่สำคัญของรัสเซีย ด้วยเหตุการบุกยูเครน แม้ว่าเขาจะต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างยูเครนและจีนเพิ่มขึ้นและมีพัฒนาการต่อไป

ทั้งนี้ ยูเครนและจีนเพิ่งเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 30 ปี ทวิภาคีของ 2 ประเทศไปเมื่อปีที่ผ่านมา และในปี 2565 จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของยูเครน โดยมีมูลค่าการค้าเกือบ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.82 แสนล้านบาท) ตามข้อมูลที่สถานทูตยูเครนในจีนบันทึกไว้

ผู้นำยูเครนกล่าวด้วยว่า เขาเข้าใจดีว่าจีนต้องการรักษาทัศนคติที่ “สมดุล” ต่อสงคราม แต่สิ่งสำคัญคือ ความขัดแย้งเกิดขึ้นจากการรุกรานดินแดนอธิปไตยของยูเครน โดยปราศจากการยั่วยุนี้

“รัสเซียคือผู้รุกราน … นี่คือสงครามในดินแดนของเรา พวกเขามารุกราน จีนในฐานะประเทศที่ใหญ่และมีอำนาจสามารถลงมาและวางรัสเซีย [ใน] ที่ใดที่หนึ่งได้” เขากล่าว และว่า “แน่นอน ฉันอยากให้จีนทบทวนทัศนคติของตนที่มีต่อรัสเซีย”

เซเลนสกียังกล่าวว่า เขาเชื่อว่าจีนและยูเครนมีค่านิยมที่คล้ายคลึงกัน เช่น ความรักต่อครอบครัวและลูก ๆ

และเขาเชื่อว่าจีนมีอำนาจทางเศรษฐกิจกดดันวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ให้ยุติสงคราม

“ผมมั่นใจว่า หากไม่มีตลาดจีน รัสเซียจะรู้สึกโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง”

“นั่นคือสิ่งที่จีนสามารถทำได้–เพื่อจำกัดการค้า (กับรัสเซีย) จนกว่าสงครามจบ”

ประธานาธิบดียูเครนยังกล่าวด้วยว่า รัสเซียไม่ได้ใช้เงินที่ได้จากการขายพลังงานราคาแพงเพื่อประชาชน ซึ่งเราเห็นถึงความเป็นอยู่ของผู้คนในรัสเซียได้ แต่รัฐบาลมอสโกใช้เงินเหล่านี้เพื่อซื้ออาวุธมาต่อสู้กับยูเครน และนี่คือสิ่งที่ต้องหยุด

พร้อมกันนี้ เซเลนสกียังเรียกร้องให้จีนใช้สถานะของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อ “แสดง” ให้ประเทศต่างๆ เห็นถึงความจำเป็นในการปฏิบัติตามบรรทัดฐานสากล

“หากเราทำเรื่องต่าง ๆ โดยปราศจากกฎหมาย เหตุใดเราควรมีคณะมนตรีความมั่นคงด้วย หากมีประเทศใด … หรือหลายประเทศในโลก สามารถตัดสินใจละเมิดกฎเกณฑ์ทางทหารได้” เซเลนสกีกล่าว