บทบรรณาธิการ : ร่วมอาลัยหนองบัวลำภู

หนองบัวลำภู
บทบรรณาธิการ

เป็นข่าวช็อกไปทั่วโลกกับเหตุฆาตกรรมหมู่ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู ด้วยฝีมือของ ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ อายุ 32 ปี อดีตตำรวจ สภ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งถูกไล่ออกจากราชการ เนื่องจากเสพยาบ้า ก่อนที่จะปลิดชีพลูก เมีย และฆ่าตัวตาย เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้ถึง 38 ราย ไม่เพียงสะเทือนขวัญคนไทยเท่านั้น แต่รวมถึงคนทั่วโลก ผู้นำหลายประเทศแสดงความเสียใจและอาลัยต่อผู้เสียชีวิต

เหตุการณ์ที่หนองบัวลำภูถือเป็นหนึ่งในเหตุฆาตกรรมหมู่ครั้งใหญ่ ต่อจากกรณี “จ่าคลั่ง” จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 34 ปี ทหารสังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ก่อเหตุสังหารผู้บังคับบัญชาคาบ้านพัก แล้วกลับไปขนอาวุธหนักจากค่ายทหารมาไล่ยิงประชาชน ต่อด้วยยึดห้างสรรพสินค้ากลางเมืองข้ามวันข้ามคืน จนมีผู้เสียชีวิตรวม 31 ราย ก่อนที่คนร้ายจะถูกวิสามัญฆาตกรรม เมื่อปี 2563

ทั้ง 2 เหตุการณ์ถือเป็นความสูญเสียที่สะเทือนขวัญอย่างยิ่ง กรณีจ่าคลั่ง พบว่ามาจากปัญหาขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ สิทธิสวัสดิการกู้ซื้อบ้านสำหรับข้าราชการทหาร จนนำไปสู่การตรวจสอบครั้งใหญ่ของกองทัพบก ส่วนอดีตตำรวจ เชื่อว่ามาจากปัญหาเสพยาเกินขนาดจนคลุ้มคลั่ง บวกกับทั้ง 2 คนร้ายเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และมีอาวุธปืนในครอบครอง เมื่อเกิดสติหลุดจึงง่ายต่อการก่อเหตุ

กรณีอดีตตำรวจและจ่าทหารมีความเหมือนกันในบางประการ หลัก ๆ คือหย่อนยานการตรวจสอบกำลังพลในสังกัด อดีตตำรวจนั้นแม้จะถูกไล่ออกจากราชการก่อนก่อเหตุ แต่การเสพยาจนคลั่งได้ขนาดนี้ แสดงว่าใช้ยาเสพติดมานานพอสมควรแล้ว กว่าที่จะถูกดำเนินคดีและไล่ออกจากราชการ อาการก็หนักเกินเยียวยา เช่นเดียวกับจ่าทหาร ที่ขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์บางอย่าง โดยที่ต้นสังกัดไม่ได้ระแคะระคาย จนปล่อยให้เรื่องบานปลาย

จะว่าไปแล้ว ทั้งตำรวจ-ทหาร ต่างมีหน่วยงานตรวจสอบภายใน แต่เป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่า หากไม่ได้ก่อเหตุเสื่อมเสีย หรือมีผลกระทบรุนแรง มักเกิดการลูบหน้าปะจมูก ปล่อยผ่านบ้าง ละเลยบ้าง เพราะเป็นพวกเดียวกัน สีเดียวกัน จึงเมื่อเกิดเรื่องใหญ่แต่ละหน่วยถึงออกมาเคลื่อนไหว หรือตรวจสอบกันอย่างเอาจริงเอาจัง จนเมื่อเวลาผ่านไปมักกลับเข้ารูปแบบเดิม ๆ รอจนเกิดเรื่องทีค่อยออกมาเต้นที

กรณีเข้มงวดตรวจสอบภายในไม่เพียงขีดวงเฉพาะตำรวจ-ทหารเท่านั้น แต่หมายรวมถึงทุกหน่วยงานราชการ ที่ควรปฏิรูปการตรวจสอบ สอดส่องข้าราชการในสังกัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด การหาผลประโยชน์ หรือทุจริตในรูปแบบต่าง ๆ เพราะส่วนใหญ่แล้วคนที่มีปัญหามักเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ แต่เพราะรอดมือกฎหมายหรือวินัยมาหลายครั้ง จึงกล้าก่อเหตุใหญ่ขึ้น-รุนแรงขึ้น หากจัดการเสียแต่เนิ่น ๆ โดยไม่ปกป้อง กลุ่มคนเหล่านี้อาจเข็ดขยาดหรือกลับเข้าสู่แถว จนมีแนวโน้มสร้างปัญหาใหญ่น้อยลง