ปิดหีบเลือกตั้งประเทศต้องเดินหน้า

แฟ้มภาพ

บทบรรณาธิการ

 

แม้ผลการเลือกตั้งยังไม่ประกาศออกมาเป็นทางการ แต่สาธารณชนได้รับทราบผลการนับคะแนนเบื้องต้นในเขตเลือกตั้งครบทั้ง 350 เขตทั่วประเทศ ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ประกาศรายชื่อผู้ได้รับเลือกเป็น ส.ส. แบบแบ่งเขตทั้งหมดแล้ว แค่รอตรวจสอบรับรองผล ก่อนประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562

สำหรับ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ซึ่งจะนำคะแนนเลือกตั้งทั้งประเทศของแต่ละพรรคการเมืองมาคำนวณตามสูตรที่กฎหมายกำหนด แม้เวลานี้อาจยังไม่นิ่งแต่เริ่มเห็นแนวโน้มชัดเจนว่า พรรคการเมืองพรรคใดบ้างจะได้ ส.ส. แบบปาร์ตี้ลิสต์ซึ่งมีทั้งหมด 150 ที่นั่ง

อย่างไรก็ตาม ผ่านพ้นวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม ไม่ทันข้ามวัน การเมืองที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยสีสันและบรรยากาศในการหาเสียง ก็เริ่มกลับมาร้อนแรงจากการช่วงชิงกันเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลระหว่าง 2 ขั้ว คือ พรรคเพื่อไทย กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งต่างฝ่ายต่างหยิบยกเหตุผลความชอบธรรมเรื่องคะแนนเสียงจากการเลือกตั้งเป็นข้ออ้าง

ฝุ่นตลบในสนามการเมืองเวลานี้ที่ 2 พรรคใหญ่ต่างพยายามช่วงชิงความได้เปรียบเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ แม้ถือเป็นเรื่องปกติหลังเลือกตั้ง แต่ครั้งนี้อยู่ภายใต้กฎกติกาใหม่ บวกกับผลการเลือกตั้งซึ่งพรรคการเมืองที่ได้จำนวน ส.ส. สูงสุด ไม่ได้ทิ้งห่างพรรคอันดับสองมากนัก แม้แต่ละฝ่ายจะสามารถดึงพรรคที่มี ส.ส. ลำดับรอง ๆ ลงไปมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล เสียงสนับสนุนที่ได้ก็น่าจะก้ำกึ่งไม่ทิ้งห่าง

ไม่แปลกที่หลายฝ่ายเริ่มเป็นห่วงและวิตกกังวล เพราะเกรงว่าการจัดตั้งรัฐบาลยิ่งเนิ่นนานออกไปเท่าใดก็ยิ่งเสี่ยงจะเกิดสุญญากาศ ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในทางธุรกิจ และการลงทุน เนื่องจากภาคเอกชนต้องการรอดูแนวโน้มทิศทางนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่

ที่สำคัญแม้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ แต่ถ้าเป็นรัฐบาลผสมมีเสียง ส.ส. สนับสนุนไม่มั่นคงพอ
สถานะอาจจะง่อนแง่น เสี่ยงที่จะเพลี่ยงพล้ำเกมในสภา การเมืองหลังการเลือกตั้งซึ่งภาคธุรกิจ นักลงทุนเคยมองเหมือนเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ จึงยังมีปัจจัยลบที่อาจพลิกตาลปัตร

ทั้งหมดนี้คือโจทย์ใหญ่ที่นอกจากพรรคการเมือง ต้องร่วมกันหาทางออกให้ประเทศชาติเดินหน้าได้แล้ว ภาคเอกชน ประชาชนต้องคอยจับตาเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปตามครรลอง


8 ปีที่รอคอยความเป็นประชาธิปไตย กับการใช้สิทธิใช้เสียงเมื่อ 24 มีนาคมที่ผ่านมาจึงจะคุ้มค่า เพราะศรัทธาความเชื่อมั่นจะเกิดขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจ การลงทุนทั้งระบบ