แก้ปัญหาเศรษฐกิจ…เกาให้ถูกที่คัน

นายอุตตม สาวนายน
บทบรรณาธิการ

แม้แค่เดือนเศษที่รัฐบาลเข้าบริหารประเทศอาจเร็วเกินไปที่จะชี้วัดผลงาน แต่สถานการณ์เศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยปัจจัยลบ สารพัดปัญหารุมเร้าทั้งค่าครองชีพ รายได้ ทำให้คนระดับกลาง ล่าง คาดหวังสูงว่ารัฐบาลจากการเลือกตั้งจะรู้ถึงปัญหาความเดือดร้อน และแก้โจทย์ได้ตรงจุด

แต่เดือนเศษที่ผ่านมา นอกจากข่าวคราวความเคลื่อนไหวแข่งกันลงพื้นที่ของรัฐมนตรี การตระเวนมอบนโยบายในการทำงาน ฯลฯ ทางสื่อหลายแขนงไม่เว้นวันแล้ว ผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันยังมีน้อยอย่างแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ 3.16 แสนล้านบาท ที่หว่านเงินแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ปลุกกำลังซื้อคนจน ผู้สูงอายุ “ชิม ช้อป ใช้” กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วยเหลือเกษตรกร เอสเอ็มอี ฯลฯ ก็เป็นโมเดลซ้ำ ๆ ยุครัฐบาล คสช.

ทั้งที่สภาพปัญหาขณะนี้หนักหน่วงรุนแรงกว่า เนื่องจากหลายปัญหาถูกสะสมมานาน ไม่ว่าจะเป็นพืชผลการเกษตรราคาตกต่ำ ค่าครองชีพที่พุ่งขึ้นสวนทางรายได้ ฯลฯ แถมเจอภัยธรรมชาติ ทั้งร้อนแล้งขาดแคลนน้ำ ที่ถูกซ้ำเติมจากอุทกภัยโดยเฉพาะภาคเหนือ อีสาน

ไม่แปลกที่ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับประเด็นเศรษฐกิจหลายสำนักจะออกมาคล้าย ๆ กัน สะท้อนความวิตกกังวลไม่เชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นว่า ผลงานทางด้านเศรษฐกิจไม่เข้าตาสาธารณชน

ล่าสุด สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เผยผลสำรวจความวิตกกังวลของคนไทย เกี่ยวกับการเมือง เศรษฐกิจ สังคม พบว่า 62.39% ของกลุ่มตัวอย่างมีความกังวลด้านเศรษฐกิจ หลัก ๆ มาจากรายได้ไม่พอรายจ่าย มีหนี้สิน เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว การตกงาน การว่างงาน ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ

ขณะที่ รมว.คลัง อุตตม สาวนายน ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้วิกฤตรุนแรง แม้ผลสำรวจโพลบางสำนักจะชี้ว่า รัฐบาลสอบตกเรื่องการแก้โจทย์เศรษฐกิจ เพราะสภาพความเป็นจริงรัฐบาลเพิ่งเข้าบริหารประเทศได้แค่เดือนเศษเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร กับคนในระดับฐานราก ภายในเดือนกันยายนนี้จะออกมาตรการสนับสนุนช่วยเหลือโดยโฟกัสไปที่ภาคการเกษตรโดยตรง สร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตการเกษตร ยกระดับรายได้ คุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น

เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่รัฐบาลผลักดันให้ภาคการเกษตรเกิดการปรับเปลี่ยนโดยนำเทคโนโลยียุคใหม่มาใช้ สำคัญสุดคือมาตรการดังกล่าวเกาได้ถูกที่คัน แก้ปัญหาได้ตรงจุดหรือไม่ มิฉะนั้นอานิสงส์คงไม่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจในภาพรวม