สร้างภูมิคุ้มกัน เศรษฐกิจโตยั่งยืน

บทบรรณาธิการ

 

ภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ การเมืองที่เปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุค 4.0 ซึ่งต่อยอดจากการปฏิวัติระบบดิจิทัล สู่การหลอมรวมเทคโนโลยีอย่างบูรณาการ ส่งผลกระทบทั้งด้านบวกและลบต่อวิถีชีวิตและการดำเนินธุรกิจ

เป็นโอกาสสำหรับผู้ที่สามารถปรับตัวให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง แต่หากบุคคล องค์กรใดปรับตัวไม่ทันความเสี่ยงที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง โดนทำลายล้าง หรือ disrupt ก็มีสูง

โดยเฉพาะในช่วงที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาและความท้าทายสารพัดรูปแบบ อย่างการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างด้านเศรษฐกิจ การเมือง ผลพวงจากสงครามทางการค้าที่สองมหาอำนาจ สหรัฐอเมริกากับจีน แข่งขันขับเคี่ยวแย่งชิงความเป็นผู้นำ ขณะที่ข้อพิพาทขัดแย้ง การก่อการร้ายเกิดขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลก

การสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน หรือเป็นวัคซีนป้องกันภัยจากภายนอก จึงเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องตระหนักและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งประชาชนทั่วไป จึงต้องร่วมผนึกกำลังกันพลิกสถานการณ์ก่อนวิกฤตจะมาถึงตัว

แนวทางหนึ่งคือการเร่งสกัดจุดอ่อนที่กำลังเป็นปัญหาความอ่อนแอเปราะบางของเศรษฐกิจฐานราก ไม่ว่าจะเป็นคนจน ผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อย หรือเอสเอ็มอี ให้มีรายได้เพิ่ม สามารถอยู่รอดและพึ่งพาตนเองได้ ควบคู่กับสร้างสมดุลระหว่างภายในกับภายนอก

ด้วยการขับเคลื่อนผลักดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับชุมชน ท้องถิ่น แทนการพึ่งพารายได้จากภาคการส่งออก ซึ่งหลายสิบปีที่ผ่านมาถือเป็นรายได้หลักขาเดียว 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) พร้อม ๆ กับสนับสนุนส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและบริการ แหล่งรายได้ใหม่ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

ให้ 4 เครื่องยนต์เศรษฐกิจ ทั้งการส่งออก การลงทุนภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน และการบริโภคภายในประเทศ ขับเคลื่อนได้อย่างสมดุล มีประสิทธิภาพประสิทธิผล แก้ปัญหาภาพสะท้อนเศรษฐกิจไทย ที่ถูกมองว่า “แข็งนอก อ่อนใน” เนื่องจากเศรษฐกิจในภาพรวมดูดี แต่ไม่กระจายถึงคนระดับกลาง ล่างที่ยังย่ำแย่

โจทย์ใหญ่เวลานี้จึงอยู่ที่ทำอย่างไรจะช่วยประคับประคอง ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพให้คนตัวเล็ก ผู้ประกอบธุรกิจรายเล็กรายย่อย เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งคนในระดับฐานรากให้ยืนอยู่บนขาตนเองได้ ภาพรวยกระจุก จนกระจาย ค่อยๆ ลดน้อยลง หรือหมดไป เพิ่มภูมิคุ้มกันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงยั่งยืน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของกระแสโลก