อย่าวางใจปมขัดแย้ง “สหรัฐ-อิหร่าน”

ความรุนแรงในตะวันออกกลางปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังสหรัฐอเมริกาโจมตีทางอากาศสังหารนายพลกอเซม สุไลมานี อดีตผู้บัญชาการหน่วยคุดส์ของอิหร่าน และถูกอิหร่านโต้กลับด้วยการยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพสหรัฐกับประเทศพันธมิตร เมื่อ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความวิตกกังวลว่าจะบานปลายกลายเป็นชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3

แต่ก่อนความตึงเครียดจะเขม็งเกลียวถึงจุดวิกฤต ทั่วโลกต่างพากันโล่งอกที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสองฝ่ายมีแนวโน้มคลี่คลาย จากถ้อยแถลงของทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และทางการอิหร่านที่ลดท่าทีแข็งกร้าวลง พร้อมประกาศต้องการความสันติ ไม่อยากเผชิญหน้า

แม้ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าปฏิบัติการทางการทหารระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน ซึ่งล่าสุดดูเหมือนหยุดพักรบชั่วคราวอาจพลิกผันได้แค่ข้ามคืน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปฏิบัติการตอบโต้เอาคืน เปิดศึกนอกรูปแบบ ในรูปแบบรอบใหม่อีกครั้ง แต่อย่างน้อยก็ทำให้ทั่วโลกคลายความตื่นตระหนกลงได้บ้าง

อีกด้านหนึ่งก็ช่วยลดทอนปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจทั้งความผันผวนไม่แน่นอนในตลาดหุ้น การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน ทองคำจากแรงกดดันวิกฤตความขัดแย้งสหรัฐ-อิหร่าน ที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะขยายวงเป็นสงครามในตะวันออกกลาง ซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกที่มีหลากหลายปัญหารุมล้อมให้หนักหนาสาหัสขึ้นอีก

เช่นเดียวกับเศรษฐกิจภายในประเทศที่ขณะนี้กำลังเผชิญสารพัดปัจจัยลบ ภาคการส่งออกได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้า และเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น การท่องเที่ยวแม้ยังเติบโตแต่ขยายตัวลดน้อยลง

ส่วนภาคการเกษตรนอกจากพืชผลราคาตกต่ำต่อเนื่องแล้ว ปีนี้วิกฤตภัยแล้งปัญหาการขาดแคลนน้ำจะรุนแรงสุดในรอบ 50 ปี ครัวเรือนเกษตรกร คนในระดับฐานรากที่กำลังย่ำแย่จะยิ่งลำบาก

เพื่อรับมือกับปัจจัยเสี่ยงภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุม และไม่อาจประเมินหรือคาดการณ์ได้ว่าจากนี้ไปความขัดแย้งที่ทั่วโลกกำลังจับตาจะคลี่คลาย หรือเป็นไปในทางตรงกันข้าม ภาครัฐ เอกชนไทยจึงต้องตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท พร้อมรองรับสถานการณ์วิกฤตฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้น และส่งผลกระทบเศรษฐกิจการค้าทั้งในประเทศ ตลาดโลก

ที่สำคัญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ ซึ่งรับผิดชอบดูแลงานด้านการต่างประเทศ เศรษฐกิจ ภาคการส่งออก ต้องเกาะติดความเคลื่อนไหวในทุกสถานการณ์ และเดินหน้าภารกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ เหนือสิ่งอื่นใดคือการรักษาชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และผลประโยชน์ประเทศชาติไว้สูงสุด ไม่ให้ได้รับผลกระทบ หรือเสียหาย