อาลัย…ส่งกำลังใจชาวโคราช

เครดิตภาพ:Terminal21 Korat Shopping Mall

บทบรรณาธิการ

 

เหตุสะเทือนขวัญ นายทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ก่อเหตุฆ่าผู้บังคับบัญชา ปล้นอาวุธปืน กระสุน ไล่ยิงประชาชน ก่อนบุกเข้าซ่อนตัวในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 กลางเมืองโคราช จบลงท่ามกลางความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างประเมินค่ามิได้ เป็นเหตุร้ายรุนแรงสุดครั้งหนึ่งในประเทศไทย

กว่า 17 ชั่วโมง ตั้งแต่บ่ายวันที่ 8 ก.พ. จนถึงเช้าวันที่ 9 ก.พ. ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายพลเรือน จะเข้าควบคุมสถานการณ์ได้ คนไทยทั้งประเทศที่ทราบข่าวต่างส่งกำลังใจและเกาะติดความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เหนือสิ่งอื่นใดคือภาวนาให้ผู้ประสบเหตุทุกคนปลอดภัย ผ่านพ้นสถานการณ์คับขันได้โดยเร็ว

สุดท้ายแม้เหตุระทึกจะจบลง สร้างความโล่งใจให้ แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐที่ยอมพลีชีพเข้าช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้าย มีผู้เสียชีวิต 30 ราย บาดเจ็บ 58 ราย ทำให้คนไทยทั่วประเทศ โดยเฉพาะชาว จ.นครราชสีมา และพื้นที่ใกล้เคียงสลดใจกับความสูญเสียโดยไม่คาดฝัน

เป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่สังคมไทยต้องบันทึกไว้ย้ำเตือนความทรงจำ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายนำมาซึ่งความสูญเสียโดยไม่อาจย้อนคืน ถือเป็นการก่อเหตุโดยขาดสติ ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ สังคมไทยจึงอาจต้องช่วยกันขบคิดทบทวนเป็นการบ้านว่า จะมีแนวทางใดช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ จิตใจของคนในยุคนี้ที่เสื่อมถอยลงให้รู้จักดีชั่ว

ขณะเดียวกันจะป้องกันแรงจูงใจในทางลบ หรือพฤติกรรมตามอย่างจากต่างประเทศ สื่อออนไลน์ สังคมโซเชียล ได้อย่างไรบ้าง เพราะกรณีปล้นทอง กราดยิงคนในห้างดัง จ.ลพบุรี ผ่านพ้นไปยังไม่ทันถึงเดือน คนไทยก็ต้องสะเทือนใจกับเหตุร้ายในห้างเทอร์มินอล 21 อาคารสาธารณะแหล่งรวมผู้คนทุกเพศวัยซ้ำอีก แต่ครั้งนี้รุนแรงกว่า สูญเสียมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ในโศกนาฏกรรมซึ่งเปรียบเหมือนฝันร้ายก็มีสิ่งที่น่าชื่นชม จากที่ประชาชนหลายภาคส่วน ผู้มีจิตอาสา สมาคม มูลนิธิ ตลอดจนข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร ฯลฯ ผนึกกำลังร่วมกันทำงานแข่งกับเวลา เป้าหมายหลักคือการให้ผู้ประสบเหตุร้ายปลอดภัย เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด ขณะที่คนไทยทั่วประเทศพากันติดตามข้อมูลข่าวสารพร้อมส่งแรงใจไปช่วย


ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยง การเสริมสร้างบรรยากาศด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองภายในประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น หลังเหตุการณ์นี้ทุกภาคส่วนต้องตั้งสติให้มั่น อย่าให้วิกฤตที่เพิ่งผ่านพ้นมาบั่นทอน ที่สำคัญต้องแปรความโศกเศร้าอาลัย เป็นแรงใจช่วยชาวโคราช เมืองแม่ย่าโม ให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด