ระวังไฟลามทุ่ง

Photo by Jack TAYLOR/AFP
คอลัมน์ สามัญสำนึก
โดย สมปอง แจ่มเกาะ

แปลกแต่จริงครับ เดี๋ยวนี้เอะอะอะไรขึ้นมาก็อ้าง “โควิด-19” กันตะพึดตะพือยันเต

คงอาจจะเป็นเพราะไวรัสร้ายตัวนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้โรงงาน ร้านค้าต่าง ๆ ต้องปิดกิจการ ทำให้คนตกงาน ถูกเลิกจ้างงานกันทั่วบ้านทั่วเมืองในเวลานี้

วันก่อนผมมีโอกาสได้นั่งสนทนากับ “ซัพพลายเออร์” สินค้าเกี่ยวกับ “เหล็ก” รายหนึ่ง

คุณพี่ซัพพลายเออร์ท่านนี้เปรย ๆ ให้ฟังว่า “ช่วงนี้ทำมาค้าขายลำบากเหลือใจ ขายของ (สินค้า) ได้ ก็ใช่ว่าจะดี”

ผมจึงย้อนถามกลับไปว่า “ทำไมล่ะ?…ขายของได้ ก็ดีแล้วนี่นา”

แกก็ตอบกลับมาด้วยอาการเซ็ง ๆ “ใช่ ขายได้มันก็ดี แต่ที่เป็นปัญหา คือ ขายได้ แต่เก็บเงินไม่ได้ โดนกันหลายรายเลย”

พร้อมกับย้ำว่า “มันอ้างโควิด”

เฮ้ยยย ! อ้างแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ…ผมคิดอยู่ในใจ ว่าแล้ว พี่ซัพพลายเออร์ก็เปิดโทรศัพท์มือถือ และยื่นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่บริษัทส่งถึงมาให้ดู

ผมรับมือถือมาอ่าน ข้อความเขียนว่า

“เรียน supplier ทุกท่าน ขอระงับการจ่ายเงิน supplier ดีล 10.04.2020 เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19” …เรียนมาเพื่อทราบ ท้ายจดหมายระบุบริษัท เบอร์ โทร.ติดต่อ พร้อมอีเมล์แอดเดรส

สั้น กระชับ ได้ใจความ

บริษัทที่ว่าเป็นธุรกิจใหญ่ของเจ้าสัวท่านหนึ่งและเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯอีกต่างหาก

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เวลาผ่านมากว่า 1 เดือนแล้วก็ยังไม่มีคำตอบจากสวรรค์ และยังไม่มีวี่แววว่าจะจ่ายหนี้ค้างเมื่อไหร่

งานนี้โดนกันไปรายละ 5 หมื่นบาทบ้าง บางรายก็ 7-8 แสน เป็นหลักล้านก็มี เงินจำนวนนี้ ในภาวะเช่นนี้ แม้ดูจะไม่มากมายอะไร แต่มันมีความหมายกับลมหายใจของธุรกิจเหลือเกิน

ว่าแล้ว ล่าสุดซัพพลายเออร์จึงรวมตัวกัน และยื่นคำขาดว่า “หากหนี้เก่ายังไม่จ่าย ของใหม่ก็จะไม่ส่งให้”

ทำนองว่าจะไม่ขอร่วมสังฆกรรมด้วยแล้ว

นี่ล่าสุด “การบินไทย” ที่กำลังเป็นข่าวใหญ่โต ก็อ้างเหตุโควิด-19 ขอเลื่อนส่งงบการเงินไตรมาส 1/2563 เหตุเพราะผลกระทบจากพิษโควิดเช่นกัน

พูดถึงการบินไทยแล้วก็ใจหาย ไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร ตอนนี้การจัดทำแผนฟื้นฟูยังไม่สะเด็ดน้ำดีนัก ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งอยู่ ตามไทม์ไลน์จะต้องเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ก่อนที่จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา

จะว่าไปแล้ว ทางเดินของการบินไทยในยามนี้อาจจะมีทางเลือกไม่มากนัก

อย่างที่เป็นที่รับรู้กันดีว่าวันนี้ การบินไทยมีหนี้สินล้นพ้นตัว เป็นตัวเลขกลม ๆ ประมาณ 2.4 แสนล้านบาท เข้าข่ายล้มละลายได้ เพราะลำพังในสถานการณ์ปกติ การบินไทยก็ยังมีผลการดำเนินงานขาดทุนแทบทุกปี หรือหากจะมีกำไรบ้าง ก็ไม่มากมายอะไร แต่ตอนนี้การบินไทยบินไม่ได้ รายได้ไม่มี แต่ยังมีรายจ่ายที่ต้องจ่ายอีกบานเบอะ จึงเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสไม่น้อยเลยทีเดียว

จึงไม่แปลกใจที่บรรดา “สหกรณ์ออมทรัพย์” องค์กรชั้นนำต่าง ๆ ที่นำเงินก้อนลงทุนซื้อหุ้นกู้ไว้มากบ้าง น้อยบ้าง เริ่มจะนั่งไม่ติด และไม่เฉพาะ 74 สหกรณ์ที่มีวงเงินลงทุนรวมกว่า 3.8 หมื่นล้านบาท ที่เป็นข่าวเท่านั้น ยังมีรายอื่น ๆ รายเล็กรายน้อยลงทุนซื้อหุ้นกู้การบินไทยอีกมากกว่าเท่าตัว

ตอนนี้คงมีสมาชิกสหกรณ์จำนวนไม่น้อยที่หนาว ๆ ร้อน ๆ หลายคนอาจจะแอบไปถอนเงินมาใส่เซฟไว้บ้างแล้ว

ลำพังหากการบินไทยล้มคนเดียว คงไม่เท่าไหร่ แต่หากการบินไทยล้มแล้วลากคนอื่นล้มไปด้วยนี่ซิ ต้องคิดให้หนัก ไตร่ตรองให้รอบคอบ

จากนี้ไปก็คงขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลจะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร

ทั้งเรื่องบริษัทใหญ่เบี้ยวหนี้ และการบินไทยแม้จะเป็นคนละเรื่องเดียวกัน และเจ็บคนละแบบ แต่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ น่ากลัวทั้งคู่


ได้แต่สวดมนต์ภาวนาว่า ขออย่าได้เป็นไฟลามทุ่งเลย…พ่อคู้ณ !