เสี่ยสหพัฒน์ พูดถึง ผู้นำ

บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา
คอลัมน์ : สามัญสำนึก
ผู้เขียน : สมถวิล ลีลาสุวัฒน์

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยและโลกใบนี้ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย และกลายเป็นกระแสที่ทุกคนพูดถึง

ทั้งการจากไปของคุณเศรษฐา ศิระฉายา นักร้องนำเสียงอมตะ วงดิ อิมพ็อสสิเบิ้ล

ทั้งสถิติยอดผู้ติดเชื้อโควิดที่ยังพุ่งสูงต่อเนื่อง ทะลุ 24,000 ราย เสียชีวิต 41 ราย เฉพาะวันศุกร์ที่ 25 ก.พ. 2565

เห็นตัวเลขแบบนี้แล้ว บอกได้คำเดียวว่า “เสียว”

เทศกาลที่ใกล้เข้ามาทั้งเช็งเม้ง สงกรานต์ คงต้องถนอมตัว จำกัดวงตัวเอง เพื่อเปิดทางให้เชื้อไวรัสสงบนิ่งก่อน ถึงจะไปใช้ชีวิตซ่าส์ได้ปกติ

และเป็นครั้งแรกที่กลุ่มศิลปินดาราติดโควิดกันงอมแงม ถือเป็นคลัสเตอร์ก้อนใหญ่

วิกฤตโควิดในไทย ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่กัดเซาะเศรษฐกิจและเม็ดเงินคงคลังของรัฐ จนลุงตู่ก็เครียด ๆ หวังจะเอาให้อยู่

เลยสั่งการเข้มให้คุมสถานการณ์ ไม่ให้เกิดระบาดวงกว้าง ไม่งั้นเจ๊งจนตรอก

รวมถึงสั่งให้คุมงบประมาณค่ารักษาโควิดที่พุ่งทะยานจ่ายไปแล้ว 1.5 แสนล้าน ไม่ใช่น้อย ๆ

ส่วน “ยูเครนเอฟเฟ็กต์” เป็นการเปิดฉากสงครามของ “รัสเซีย” ที่ทำท่าจะบานปลาย ทั้งสร้างความกังวลใจให้นักธุรกิจต้องปรับตัว ปรับแผน และปลอบใจตัวเองอีกครั้ง

เพื่อฝ่าวิกฤตจากปัจจัยลบนอกประเทศที่สะเทือนมาถึงตัวเอง

โดยกระทบธุรกิจทั้งยวง ทั้งกระทบชิ่งเป็นโดมิโน่ โดยเฉพาะปัญหา “ต้นทุน” ที่พุ่งสูงขึ้น ค่าไฟ ค่าพลังงาน ค่าก๊าซ คงไม่มีโอกาสได้ลดราคาลงแบบราคาหมู

ขณะที่ปัญหาปากท้องชาวบ้านยังคงอยู่ คนไทยระดับชนชั้นกลางลงมา เริ่มจะรู้รสชาติของคำว่า “ความจน” บ้างแล้ว

ต่างจากรากหญ้าระดับล่าง ที่หาเช้ากินค่ำ “จน” จนชิน

วันก่อนมีโอกาสได้สัมภาษณ์เป็นกรณีพิเศษ “คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา” เสี่ยใหญ่เครือสหพัฒน์ ที่ทำธุรกิจค้าขายกับประชาชนแบบตลาดแมส

เพราะสหพัฒน์ขายทุกอย่าง ตั้งแต่ของใช้หน้าบ้านไปถึงหลังบ้าน ทั้งในห้องน้ำและชุดชั้นในในร่างกายเรา

ทุกบ้านจะต้องมีสินค้าของเครือนี้อย่างน้อย 2-5 อย่าง

ทำให้เสี่ยใหญ่ที่มีอายุถึง 85 ปีแล้วในวันนี้ เข้าใจ “เศรษฐกิจไทย” อย่างลึกซึ้ง

ถามว่า อนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร

เสี่ยตอบว่า “ขึ้นอยู่กับผู้นำ”

ถ้าผู้นำเก่ง เมืองไทยจะไปได้เร็ว (กว่านี้)

เลยถามต่อ “แล้วประเทศเรามีคนเก่งบ้างมั้ย”

“มี (เน้นเสียง) แต่อำนาจไม่มี”

เสี่ยเริ่มตอบยาวขึ้น “จริง ๆ เศรษฐกิจประเทศไทยดีกว่าประเทศอื่น แต่เราอาจจะเดินช้ากว่าคนอื่น อยู่ที่ผู้นำด้วย ยกตัวอย่าง สมัยก่อน มือถือเรามาก่อนคนอื่น แต่พอมาถึง 2G 3G 4G กลับมาช้ากว่าคนอื่น”

เทคโนโลยีเราช้าไป เศรษฐกิจเราเดินตามธรรมชาติ

ถามอีกว่า ช้าที่การเมืองหรือเปล่า

“อาจจะการเมือง” เสี่ยตอบ พร้อมพยักหน้าแบบใช้ความคิด

“พื้นฐานเราดี คนไทยขยัน อดทน ถ้ามีผู้นำดี ๆ เราแซงหน้าสิงคโปร์ไปแล้ว”

วกกลับมาถึงตัวเสี่ยใหญ่ วันนี้ในแง่การเป็นผู้นำทัพ ยังคง “คิดไม่หยุด”

ถ้าทำได้ บริหารได้ คงลงไปช่วย 200 บริษัทในมือให้มีกำไร ให้มีการขับเคลื่อนเร็วกว่าที่เป็นอยู่

สื่อเองก็ต้องเปลี่ยนนะ พิมพ์แบบเก่า ๆ ลำบาก ต้องเปลี่ยนไปเป็นโซเชียล

จริง ๆ ถ้าสื่อกับพ่อค้าสามารถร่วมมือกันได้ เราคงทำอะไรได้อีกเยอะ เพราะบิ๊กดาต้าอยู่ที่คน 3 กลุ่ม คือ หมอ นักข่าว และทหาร เสธ.

“จีดีพี ประเทศไทย ชั้นไม่กล้าหวังเยอะ 1-2% ก็พอแล้ว ไม่ถอยหลังก็ดีแล้ว ปกติชั้นจะให้สัมภาษณ์ปีละครั้ง เพราะพูดไม่เก่ง โกหกไม่เป็น”

ปีนี้เหนื่อยหน่อย “ต้นทุน” สินค้าขึ้นหมด ค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า เป็นตัวแปร แต่ละเดือนเราจ่ายสิบกว่าล้าน เยอะนะ

“ก็ต้องประหยัด แล้วทำบริษัทให้มีกำไร ชั้นถึงจะยิ้มได้”