คอลัมน์ : สามัญสำนึก ผู้เขียน : สมถวิล ลีลาสุวัฒน์
รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยและโลกใบนี้ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย และกลายเป็นกระแสที่ทุกคนพูดถึง
ทั้งการจากไปของคุณเศรษฐา ศิระฉายา นักร้องนำเสียงอมตะ วงดิ อิมพ็อสสิเบิ้ล
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ทั้งสถิติยอดผู้ติดเชื้อโควิดที่ยังพุ่งสูงต่อเนื่อง ทะลุ 24,000 ราย เสียชีวิต 41 ราย เฉพาะวันศุกร์ที่ 25 ก.พ. 2565
เห็นตัวเลขแบบนี้แล้ว บอกได้คำเดียวว่า “เสียว”
เทศกาลที่ใกล้เข้ามาทั้งเช็งเม้ง สงกรานต์ คงต้องถนอมตัว จำกัดวงตัวเอง เพื่อเปิดทางให้เชื้อไวรัสสงบนิ่งก่อน ถึงจะไปใช้ชีวิตซ่าส์ได้ปกติ
และเป็นครั้งแรกที่กลุ่มศิลปินดาราติดโควิดกันงอมแงม ถือเป็นคลัสเตอร์ก้อนใหญ่
วิกฤตโควิดในไทย ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่กัดเซาะเศรษฐกิจและเม็ดเงินคงคลังของรัฐ จนลุงตู่ก็เครียด ๆ หวังจะเอาให้อยู่
เลยสั่งการเข้มให้คุมสถานการณ์ ไม่ให้เกิดระบาดวงกว้าง ไม่งั้นเจ๊งจนตรอก
รวมถึงสั่งให้คุมงบประมาณค่ารักษาโควิดที่พุ่งทะยานจ่ายไปแล้ว 1.5 แสนล้าน ไม่ใช่น้อย ๆ
ส่วน “ยูเครนเอฟเฟ็กต์” เป็นการเปิดฉากสงครามของ “รัสเซีย” ที่ทำท่าจะบานปลาย ทั้งสร้างความกังวลใจให้นักธุรกิจต้องปรับตัว ปรับแผน และปลอบใจตัวเองอีกครั้ง
เพื่อฝ่าวิกฤตจากปัจจัยลบนอกประเทศที่สะเทือนมาถึงตัวเอง
โดยกระทบธุรกิจทั้งยวง ทั้งกระทบชิ่งเป็นโดมิโน่ โดยเฉพาะปัญหา “ต้นทุน” ที่พุ่งสูงขึ้น ค่าไฟ ค่าพลังงาน ค่าก๊าซ คงไม่มีโอกาสได้ลดราคาลงแบบราคาหมู
ขณะที่ปัญหาปากท้องชาวบ้านยังคงอยู่ คนไทยระดับชนชั้นกลางลงมา เริ่มจะรู้รสชาติของคำว่า “ความจน” บ้างแล้ว
ต่างจากรากหญ้าระดับล่าง ที่หาเช้ากินค่ำ “จน” จนชิน
วันก่อนมีโอกาสได้สัมภาษณ์เป็นกรณีพิเศษ “คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา” เสี่ยใหญ่เครือสหพัฒน์ ที่ทำธุรกิจค้าขายกับประชาชนแบบตลาดแมส
เพราะสหพัฒน์ขายทุกอย่าง ตั้งแต่ของใช้หน้าบ้านไปถึงหลังบ้าน ทั้งในห้องน้ำและชุดชั้นในในร่างกายเรา
ทุกบ้านจะต้องมีสินค้าของเครือนี้อย่างน้อย 2-5 อย่าง
ทำให้เสี่ยใหญ่ที่มีอายุถึง 85 ปีแล้วในวันนี้ เข้าใจ “เศรษฐกิจไทย” อย่างลึกซึ้ง
ถามว่า อนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร
เสี่ยตอบว่า “ขึ้นอยู่กับผู้นำ”
ถ้าผู้นำเก่ง เมืองไทยจะไปได้เร็ว (กว่านี้)
เลยถามต่อ “แล้วประเทศเรามีคนเก่งบ้างมั้ย”
“มี (เน้นเสียง) แต่อำนาจไม่มี”
เสี่ยเริ่มตอบยาวขึ้น “จริง ๆ เศรษฐกิจประเทศไทยดีกว่าประเทศอื่น แต่เราอาจจะเดินช้ากว่าคนอื่น อยู่ที่ผู้นำด้วย ยกตัวอย่าง สมัยก่อน มือถือเรามาก่อนคนอื่น แต่พอมาถึง 2G 3G 4G กลับมาช้ากว่าคนอื่น”
เทคโนโลยีเราช้าไป เศรษฐกิจเราเดินตามธรรมชาติ
ถามอีกว่า ช้าที่การเมืองหรือเปล่า
“อาจจะการเมือง” เสี่ยตอบ พร้อมพยักหน้าแบบใช้ความคิด
“พื้นฐานเราดี คนไทยขยัน อดทน ถ้ามีผู้นำดี ๆ เราแซงหน้าสิงคโปร์ไปแล้ว”
วกกลับมาถึงตัวเสี่ยใหญ่ วันนี้ในแง่การเป็นผู้นำทัพ ยังคง “คิดไม่หยุด”
ถ้าทำได้ บริหารได้ คงลงไปช่วย 200 บริษัทในมือให้มีกำไร ให้มีการขับเคลื่อนเร็วกว่าที่เป็นอยู่
สื่อเองก็ต้องเปลี่ยนนะ พิมพ์แบบเก่า ๆ ลำบาก ต้องเปลี่ยนไปเป็นโซเชียล
จริง ๆ ถ้าสื่อกับพ่อค้าสามารถร่วมมือกันได้ เราคงทำอะไรได้อีกเยอะ เพราะบิ๊กดาต้าอยู่ที่คน 3 กลุ่ม คือ หมอ นักข่าว และทหาร เสธ.
“จีดีพี ประเทศไทย ชั้นไม่กล้าหวังเยอะ 1-2% ก็พอแล้ว ไม่ถอยหลังก็ดีแล้ว ปกติชั้นจะให้สัมภาษณ์ปีละครั้ง เพราะพูดไม่เก่ง โกหกไม่เป็น”
ปีนี้เหนื่อยหน่อย “ต้นทุน” สินค้าขึ้นหมด ค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า เป็นตัวแปร แต่ละเดือนเราจ่ายสิบกว่าล้าน เยอะนะ
“ก็ต้องประหยัด แล้วทำบริษัทให้มีกำไร ชั้นถึงจะยิ้มได้”