รมว.แรงงาน เตรียมสินเชื่อบ้าน ม.33 เฟส 2 หลังเฟสแรกสิทธิเต็มในวันเดียว

สุชาติ ชมกลิ่น

“สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน เตรียมแผนสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ ช่วยผู้ประกันคน ม.33 เฟส 2 หลังจากเฟสแรก 30,000 ล้านบาท คนแห่ขอใช้สิทธิเต็มภายในวันเดียว

วันที่ 21 ธันวาคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับธนาคาอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดำเนินโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 30,000 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานได้มีสิทธิไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงิน ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยที่ผู้ประกันตนเป็นหนี้อยู่ โดยที่อยู่อาศัยนั้นจะต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ประกันตนหรือกรรมสิทธิ์รวม

โดยภายหลังที่ ธอส.เปิดให้ผู้ประกันตนรับรหัสผ่านเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชั่น GHB ALL หรือ GHB ALL GEN เพื่อรับรหัสผ่าน GHB Buddy ในแอปพลิเคชั่น Line มาตั้งแต่ 16.00 น. ของเมื่อวานนี้ (20 ธันวาคม 2565) จนกระทั่งถึงเมื่อช่วงเที่ยงเศษของวันนี้ (21 ธันวาคม 2565) ปรากฏว่า มีผู้ประกันตนกดรับรหัสเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 15,000 ราย คิดเป็นเงินสินเชื่อจำนวน 30,000 ล้านบาท ซึ่งครบตามเป้าหมายที่กำหนดแล้ว

นายสุชาติอธิบายว่า โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนนี้ เพื่อให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ที่จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน สามารถใช้สิทธิในการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ปีที่ 1-5 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี คงที่ 5 ปี

ปีที่ 6-8 อัตราดอกเบี้ย MRR-2.00% ต่อปี และปีที่ 9 เป็นต้นไปจนถึงตลอดอายุสัญญา อัตราดอกเบี้ย MRR-0.50% ต่อปี กู้ได้ไม่เกินรายละ 2 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิในการไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัย หรือรีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่น รวมถึงเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในบัญชีเงินกู้ที่กู้อยู่กับธนาคารอาคารสงเคราะห์

“โครงการนี้ทำให้ผู้ใช้แรงงานมีสิทธิได้กู้เงินส่งบ้านในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ยกตัวอย่างเช่น แต่เดิมผู้ใช้แรงงานกู้เงินต้นมา 2 ล้านบาท แต่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 6% ต่อปี ต้องเสียเงินค่าดอกเบี้ยปีละ 120,000 บาท 5 ปี คิดเป็นค่าดอกเบี้ย 600,000 บาท

ผมคิดถึงเรื่องความมั่นคงในชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องผู้ใช้แรงงานจึงคิดโครงการนี้ขึ้นมา เท่ากับว่าโครงการนี้พี่น้องผู้ใช้แรงงานกู้เงินต้นมา 2 ล้านบาทเท่ากัน แต่ดอกเบี้ยถูกกว่าเหลือเพียง 1.99% ต่อปี เสียดอกเบี้ยเพียงปีละ 40,000 บาท ทำให้ลดดอกเบี้ยจากเดิม 5 ปี 600,000 บาท เหลือเพียง 200,000 บาท

ลดดอกเบี้ยได้ถึง 400,000 บาทต่อครอบครัว ซึ่งเงินในส่วนนี้จะทำให้ผู้ใช้แรงงานมีเงินเหลือเก็บเข้ากระเป๋าเดือนละกว่า 6,000 บาท สามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายลดหนี้สินได้ และเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกด้วย”

นายสุชาติกล่าวต่อว่า ท่านใดที่สนใจและดำเนินการไม่ทันตามกำหนด ขอให้ติดตามข่าวสาร โดยจะนำข้อมูลผลตอบรับจากโครงการในเฟสแรกนี้ไปประมวลปรับปรุงเงื่อนไขต่าง ๆ ให้เหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของพี่น้องผู้ใช้แรงงานให้มากขึ้น เพื่อนำไปพิจารณาสู่โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนในเฟสต่อไป

“โครงการนี้เกิดจากการที่ท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีความห่วงใยต้องการที่จะช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ใช้แรงงาน ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานจึงได้คิดโครงการนี้ขึ้นมา เป็นโครงการที่ไม่มีเคยมีใครทำมาก่อน ถือเป็นครั้งแรกที่กระทรวงแรงงานทำ ซึ่งผมดูแลให้ความสำคัญพี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกคนเหมือนคนในครอบครัว”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือเฟซบุ๊กเพจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่แอปพลิเคชั่น GHB ALL หรือ GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

สามารถติดต่อขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตนแบบอิเล็กทรอนิกส์กับสำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อประกอบการยื่นกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2566

และสามารถทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 มกราคม 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา/ที่ท่านสะดวก หรือโทร.สายด่วน 1506 ติดต่อสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th