ปลดหนี้พนักงาน ด้วยฟินเทคเพื่อความสุขในองค์กร

ลิน ค็อก-พิชาวีร์ เมฆขยาย-ยุทธเดช ปัทมานนท์-ธีระพงษ์ ตัณฑศิลป์-จารุมณี นาคะศิริ
ลิน ค็อก-พิชาวีร์ เมฆขยาย-ยุทธเดช ปัทมานนท์-ธีระพงษ์ ตัณฑศิลป์-จารุมณี นาคะศิริ

พนักงานในประเทศไทยกว่า 95% มีภาระหนี้สิน (ข้อมูลจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างแรงงานไทยประจำปี 2562) ในหัวข้อ “สถานภาพแรงงานไทย” โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งปัญหาหนี้สินอาจถูกมองว่าเป็นปัญหาส่วนบุคคล แต่ความจริงแล้ว ปัญหานี้ส่งผลต่อองค์กรด้วย เพราะความเครียดของพนักงานทำให้พวกเขาลดประสิทธิภาพการทำงาน จนเกิดผลกระทบต่อองค์กร

ดังนั้น การที่องค์กรพยายามหาหนทางช่วยเหลือด้านการเงินให้กับพนักงาน ถึงแม้จะไม่ใช่หน้าที่ แต่ก็ทำให้พนักงานมีกำลังใจ เชื่อมั่นในองค์กร และมีส่วนทำให้มี engagement ต่อองค์กรในระยะยาว

แต่ความท้าทายคือจะทำอย่างไรให้องค์กรมีสวัสดิการช่วยเหลือด้านการเงินกับพนักงาน โดยไม่เพิ่มภาระแก่องค์กร และไม่เพิ่มงานให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคล เพราะเป็นหน่วยงานที่ต้องดูแลพนักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการจ่ายเงินเดือน

ด้วยเหตุนี้ Mula-X (มูลา-เอกซ์) บริษัทฟินเทคที่ได้รับรางวัลในด้านการพัฒนาบริการทางการเงินสำหรับกลุ่มคนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินแบบดั้งเดิมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงประกาศจับมือร่วมกับ HumanOS ผู้ให้บริการระบบข้อมูลสำหรับจัดการทรัพยากรบุคลากรชั้นนำของประเทศไทย (HRIS)

Advertisment

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายในการยกระดับสุขภาพทางการเงินของพนักงานในประเทศไทย ผ่านเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ช่วยให้สามารถบริหารจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

“ลิน ค็อก” ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Mula-X กล่าวว่า บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อการกู้ยืมเงิน และการเรียนรู้แบบครบวงจร โดยอาศัยข้อมูลทางเลือก กระบวนการตรวจสอบคะแนนเครดิตด้วย AI/ML และเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานระดับเวิลด์คลาสเพื่อมอบบริการเงินด่วน บริการกู้ยืมเงิน และการให้ข้อมูลอย่างรวดเร็ว

บริษัทวางเป้าหมายในการใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อสร้างอีโคซิสเต็มทางการเงินเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินที่รวดเร็ว ง่ายดาย และประหยัด

พันธกิจของ Mula-X คือการเป็นบริการครบวงจรทางการเงินดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งเน้นยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คนผ่านองค์ความรู้ โดยบริษัทให้ความสำคัญกับคุณค่าหลัก 3 ประการ ได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม และการเรียนรู้

Advertisment

ทั้งนี้ ปัญหาหนี้สินของพนักงานองค์กรต่าง ๆ สามารถหาทางออกได้ 2 วิธี คือ หนึ่ง ความช่วยเหลือทางการเงินในกรณีฉุกเฉินเพื่อไม่ให้พนักงานต้องไปกู้เงินนอกระบบ สอง การให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการเงินที่ถูกต้อง

“การเป็นพันธมิตรกับ HumanOS สอดคล้องอย่างยิ่งกับพันธกิจที่เรามีร่วมกันในการเพิ่มศักยภาพของพนักงานผ่านเทคโนโลยี ความร่วมมือครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อขจัดความเครียดทางการเงินที่แรงงานไทยจำนวนมากประสบอยู่ โดยการช่วยให้พนักงานเข้าถึงบริการทางการเงินได้โดยง่าย”

“จารุมณี นาคะศิริ” ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายกลยุทธ์และธรรมาภิบาลของ Mula-X กล่าวว่า จากการศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่า ร้อยละ 46 ของผู้ที่มีหนี้สินมักจะมีอาการทางจิตควบคู่เช่นกัน นอกจากนี้ ความเครียดทางการเงินยังนำไปสู่ประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลงของพนักงาน ส่งผลให้คุณภาพงานแย่ลง ความสัมพันธ์ในองค์กรตึงเครียดมากขึ้น และอาจส่งผลให้อัตราการลาออกของพนักงานเพิ่มสูงขึ้น

จากการศึกษาที่จัดทำโดย Google Temasek และ Bain & Company ปี 2562 ระบุว่า ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 6 ใน 10 คน ถูกประเมินว่าเป็นผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการธนาคารอย่างเต็มที่ ประชาชนในกลุ่มนี้อาจมีบัญชีธนาคาร แต่มักใช้บริการทางการเงินนอกระบบธนาคาร หรือบางคนอาจไม่มีบัญชีธนาคารเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มแรงงานค่าแรงต่ำ ลูกจ้างรายวัน คนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน และนักศึกษา

ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ บริการทางการเงินของ Mula-X จะถูกเชื่อมผ่านแพลตฟอร์ม HumanOS เพื่อให้ผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม HumanOS ที่เป็นพนักงานจากองค์กรต่าง ๆ กว่า 300,000 ราย สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินของ Mula-X ในคลิกเดียว และมีขั้นตอนการเพิ่ม และอนุมัติพนักงานเข้ารับบริการที่สะดวกสบาย

ในขณะที่ HumanOS จะปรับเพิ่มบริการบนแพลตฟอร์ม HRIS ให้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของ Mula-X เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในการใช้งานและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ช่วงแรกของความร่วมมือจะนำเสนอบริการหลัก 2 ประเภท ได้แก่ Salary2Wallet และ Salary Xpress (Salary on Demand) โดยบริการทั้ง 2 ประเภทนี้ เมื่อใช้ร่วมกับพอลทัลการเรียนรู้ทางการเงินของ Mula-X จะช่วยให้ผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม HumanOS มีสุขภาพทางการเงิน และประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น

“ยุทธเดช ปัทมานนท์” ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ และเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท Mula-X กล่าวว่า Mula-X ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือคนที่เข้าไม่ถึงการให้บริการด้านกู้ยืมเงินจากธนาคาร เพราะการกู้เงินผ่านระบบธนาคารมีข้อจำกัดในการอนุมัติที่ต้องใช้เวลาพิจารณานาน และอัตราการผ่านอนุมัติก็ไม่สูง

บริษัทเล็งเห็นว่าศักยภาพของแพลตฟอร์ม Mula-X สามารถช่วยลดความเครียดด้านหนี้สินให้กับพนักงานองค์กรต่าง ๆ ได้ ด้วยวิธีการเบิกค่าจ้างล่วงหน้า (Salary Xpress) เพื่อช่วยพนักงานที่ไม่มีเงินออม แต่เกิดความจำเป็นต้องใช้เงินกะทันหัน และไม่กล้ามาคุยกับนายจ้าง

ขณะเดียวกัน Mula-X ก็ทำหน้าที่ช่วยองค์กรต่าง ๆ ไม่ต้องมาอนุมัติเบิกเงินล่วงหน้าด้วยตนเอง และไม่ต้องบริหารหรือทวงเงินจากพนักงานด้วยตนเองด้วย

โดยใช้ Salary Xpress ซึ่งเป็นรูปแบบการให้เบิกเงินล่วงหน้า 50% จากยอดเงินเดือนสะสมในเดือนนั้น ๆ เช่น พนักงานมีค่าแรงวันละ 500 บาท ทำงานไป 10 วันเท่ากับมีเงินเดือนสะสมอยู่ 5,000 บาท จะเบิกเงินล่วงหน้า ณ ตอนนั้น ได้ 2,500 บาท ซึ่งเมื่อพนักงานเบิกระหว่างเดือนไปแล้ว เท่ากับว่าเงินเดือนสะสมเดือนนั้นลดลง

แล้วเมื่อต้องการเบิกเงินเดือนล่วงหน้าอีกครั้ง จะเบิกได้ 50% ของยอดเงินเดือนสะสมที่เหลือ ส่วนการชำระหนี้คืน เงินจะถูกหักอัตโนมัติจากเงินเดือนพนักงานเดือนถัดไป โดยค่าบริการจะเก็บจากพนักงาน มีแบบรายเดือน หรือแบบรายครั้งที่เบิกล่วงหน้าในอัตรา 30-40 บาท เป็นต้น

“ธีระพงษ์ ตัณฑศิลป์” ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ HumanOS กล่าวว่า ภายใต้ความท้าทายทางการเงินที่พนักงานในประเทศไทยต้องเผชิญ ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัท Mula-X และ HumanOS ที่จะช่วยขจัดความเครียดทางการเงินและสร้างความแข็งแรงทางการเงินให้แก่พนักงาน และช่วยให้นายจ้างสามารถมอบสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้นแก่พนักงานได้

HumanOS มีบริการด้านเอชอาร์ที่ครอบคลุม เช่น การลงเวลาสำหรับพนักงานผ่านมือถือ คำนวณเงินเดือน ลางานออนไลน์ ตารางการทำงาน เป็นต้น ทั้งนี้ การที่องค์กรต่าง ๆ อยากก้าวเป็น Future of Work for Responsible Employer หรือนายจ้างผู้มีความรับผิดชอบในโลกการทำงานแห่งอนาคต จำเป็นต้องลงทุนกับเทคโนโลยี ซึ่งเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยงานขององค์กรที่สำคัญ ทำให้องค์กรสามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว

ที่สำคัญนายจ้างต้องลงทุนกับการดูแลพนักงานให้มีความสุข เพราะพนักงานเป็นกำลังสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ต้องให้ความสำคัญกับสวัสดิการต่าง ๆ

“พิชาวีร์ เมฆขยาย” ผู้ก่อตั้ง iSTRONG ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิต นักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบรับรอง และที่ปรึกษาจิตวิทยาองค์กร กล่าวเสริมว่า ความเครียดด้านการเงินส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพจิตเรื้อรังที่ส่งผลต่อผลการปฏิบัติงาน ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน และภาวะหมดไฟในการทำงาน

ในประเทศไทยมีรายงานว่า ประชากรกว่า 1.5 ล้านคน กำลังเผชิญกับภาวะปัญหาทางจิตใจ และ 62% เป็นกลุ่มคนทำงานในองค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร หรือเมืองขนาดใหญ่ และมีการคาดการณ์ว่าในอนาคตอันใกล้ ปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า จะพบมากในคนไทยเป็นอันดับ 2 รองจากโรคหัวใจ

“การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไขหลังเกิดปัญหา ดังนั้น องค์กรต่าง ๆ ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศที่มีการช่วยเหลือที่ดี สอนให้พนักงานบริหารจัดการเงินเป็น นอกจากนั้น ผู้นำต้องมี empathic leadership เพราะมีงานวิจัยหลายตัวระบุว่า คนที่มีปัญหาการเงินเกิดจากปัจจัยด้านจิตวิทยาส่วนบุคคล

ได้แก่ ขาดความรู้ความเข้าใจ การขาดความมั่นใจ รูปแบบการถูกสั่งสอนตอนเด็ก การดูแบบอย่างจากพ่อแม่ที่บริหารการเงินได้ไม่ดี หรือมี EQ ที่ไม่ดี ทำให้ถูกกระตุ้นให้ใช้จ่ายได้ง่าย ดังนั้นการเป็นนายจ้างที่มีความรับผิดชอบ ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานแบบองค์รวม (holistic)”

นับว่าความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันปัญหาการเงินของพนักงานในอนาคต โดยใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยี พัฒนาจนกลายเป็นสวัสดิการอย่างหนึ่งที่ส่งผลดีกับระบบบริหารงานบุคคล จนทำให้เกิดการบริหารจัดการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ