45 ปี ไบโอฟาร์มเพื่อชุมชน เติมความแข็งแรงให้ผู้พิทักษ์ป่า

บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ดำเนินกิจการก้าวเข้าสู่ปีที่ 45 โดยยึดมั่นปรัชญาในการทำงานว่า “Embracing Life” หรือ “โอบอุ้มดูแลคุณค่าทุกชีวิต” ซึ่งได้จัดทำโครงการตู้ยาไบโอฟาร์มเพื่อชุมชนมาต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี

สำหรับปีนี้ในโอกาสครบรอบ 45 ปี บริษัทจัดโครงการ “45 ปี ไบโอฟาร์มเพื่อชุมชน เติมยา เติมความห่วงใย” โดย “ปริญญา เปาทอง” ผู้อำนวยการฝ่ายประสานงานองค์กร บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ให้ข้อมูลว่า โครงการนี้ต่อยอดมาจากโครงการตู้ยาไบโอฟาร์ม เพื่อชุมชน ซึ่งสนับสนุนให้แต่ละชุมชนเข้าถึงยา และมียาพื้นฐานที่จำเป็นในการดูแลตัวเอง และรักษาคนในชุมชน โดยดำเนินการในจังหวัดสมุทรปราการ, ปทุมธานี และสมุทรสาคร ขณะเดียวกัน ได้พิจารณาถึงกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงในการทำงาน และมีปัญหาในเรื่องของการเข้าถึงยาอีกด้วย

“เราลิสต์กลุ่มต่าง ๆ ออกมาจนได้ข้อสรุปที่กลุ่มผู้พิทักษ์ป่า ตอนแรกเราเข้าใจว่าพวกเขาเป็นข้าราชการ และมีสิทธิ์ในการดูแลรักษาพยาบาล แต่เมื่อมาทำเซอร์เวย์พบว่าส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่อัตราจ้าง ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อยู่ในละแวกของป่าไม้ หรือป่าสงวนแห่งชาติ แต่มีจิตเสียสละ มีจิตอาสา อุทิศตัวเอง เพื่อมาดูแลป่า ส่วนที่เป็นข้าราชการอาจมีอยู่บ้างแต่จำนวนไม่มาก ฉะนั้น เราจึงให้ความสำคัญกับผู้พิทักษ์ป่า ซึ่งพวกเขาเป็นผู้ดูแลทั้งชุมชนและทรัพยากรที่จะเป็นมรดกให้กับลูกหลานของเราต่อไปในอนาคต”

“ไม่เพียงผู้พิทักษ์ป่าเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์จากตู้ยาของเรา ยังมีชุมชนในละแวกเดียวกันได้มาอาศัยใช้ยาตรงนี้ด้วย เพราะว่าชุมชนไม่มีรถ ไม่มีโอกาสใช้สถานบริการสาธารณสุข หรือโรงพยาบาลได้เลย กับอีกกลุ่มหนึ่งคือนักท่องเที่ยว เราจะเห็นว่าแหล่งศึกษาตามธรรมชาติบางแห่งเป็นอุทยานท่องเที่ยวที่เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งคนกลุ่มนี้อาจเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน”

แม้ที่ผ่านมากรมอุทยานฯมีงบประมาณในการจัดซื้อยา แต่กลับพบปัญหาว่ายาเหล่านั้นไม่ได้จัดเก็บในสถานที่ที่เหมาะสม ดังนั้น ตู้ยาจึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ เมื่อมีตู้ยาแล้วชุมชนจะทราบว่าพวกเขาสามารถเบิกยาไปใช้ได้ อีกทั้งยังสามารถสร้างจิตสำนึกด้วยเช่นกัน เพราะหากใครมีกำลังเงินก็สามารถซื้อยาสามัญไปช่วยเติม เป็นการส่งต่อและช่วยกันดูแลตู้ยาที่ทำให้เกิดการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

โดยไบโอฟาร์มฯได้ลงพื้นที่เติมยาครั้งแรกที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมนำเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนามาบริการตรวจสุขภาพให้กับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระจำนวน 93 คน เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเหล่าผู้พิทักษ์ป่าได้มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่มีปัญหาสุขภาพจะได้รับการแนะนำให้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลต่อไป

“ไพฑูรย์ อินทรบุตร” หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีเล่าว่า ผู้พิทักษ์ป่าต้องเจอกับสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน เสี่ยงอันตรายจากสัตว์ป่า และพบแมลงมีพิษ อาจกล่าวได้ว่าการเข้าป่าของเจ้าหน้าที่ในแต่ละครั้งมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากสภาพแวดล้อมภายในป่า อีกทั้งต้องเสี่ยงกับโรคทางร่างกายอันมาจากการเดินลาดตระเวน ต้องแบกสัมภาระทั้งน้ำ อาหาร และของใช้จำเป็น

“การเดินเท้าเป็นระยะทางหลายสิบกิโลเมตรติดต่อกันหลายวันจากการแบกของหนัก ทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ เป็นรอยช้ำ หรือแม้แต่โรคในระบบทางเดินอาหารก็เกิดได้ง่ายมากจากการดื่มน้ำไม่สะอาด เพราะพวกเขาไม่สามารถแบกน้ำสะอาดให้พอกับจำนวนวันที่ไปได้ จึงจำเป็นต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ”

“ผู้พิทักษ์ป่าส่วนใหญ่มักละเลยดูแลสุขภาพร่างกาย ต้องรอให้เจ็บหนักจริง ๆ จึงไปรักษาตัว รวมถึงหลายคนยังขาดความรู้ในการดูแลสุขภาพ และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หรือแม้แต่การไปตรวจสุขภาพประจำปีเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวเองเท่าที่ควร ตู้ยาของไบโอฟาร์มฯจึงถือว่าเป็นอีกแนวทางที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ดีขึ้น”

ไบโอฟาร์มฯตั้งเป้าตลอดโครงการว่าในระยะเวลา 1 ปีจะทำการมอบตู้ยาจำนวน 450 ตู้ และถุงยา 900 ถุง ให้ครอบคลุมพื้นที่อุทยานฯและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในเขตอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และเขตผืนป่าตะวันออก ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, ทับลาน, ปางสีดา, ตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดสระบุรี, นครนายก, นครราชสีมา, ปราจีนบุรี, สระแก้ว และบุรีรัมย์