อเด็คโก้ เผยผลสำรวจ ยุคใหม่การทำงาน หลังโควิด-19

พนักงานจำนวนมาก

อเด็คโก้ประเทศไทย เผยผลสำรวจ Resetting Normal: Defining the New Era of Work กลุ่มคนทำงานในประเทศไทย เกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัดในช่วงโควิด-19 ของภาคเอกชน มุมมองของพนักงานที่มีต่อนโยบาย Work From Home การช่วยเหลือพนักงานให้ก้าวข้ามวิกฤต และมุมมองของพนักงานที่มีต่อสถานการณ์หลังโควิด-19

กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย เอเจนซี่ด้านทรัพยากรบุคคลครบวงจร เผยผลสำรวจ Resetting Normal: Defining the New Era of Work ที่สำรวจกลุ่มคนทำงานในประเทศไทยจำนวน 670 คน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานประจำและมีการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป ทั้งนี้ กว่าครึ่งเป็นพนักงานในระดับหัวหน้างานและผู้จัดการ ถึงผลกระทบที่ได้รับจากการระบาดของโควิด-19 และมุมมองต่ออนาคตการทำงาน

มาตรการรัดเข็มขัด

ผลการสำรวจพบว่า ภาคเอกชนต่างมีมาตรการที่หลากหลายเพื่อรัดเข็มขัดในช่วงโควิด-19 ตั้งแต่การชะลอรับพนักงานใหม่ (57%) ชะลอขึ้นเงินเดือน/เลื่อนขั้น (26%) ลดเงินเดือน (18%) ลดกำลังการผลิต (17%) ให้พนักงานใช้วันลา (17%) เลิกจ้างพนักงาน (16%) พักงานพนักงานชั่วคราว (14%) ลดการจ้าง supplier (11%) รวมถึงมีปรับตารางงาน ลดเวลาทำงานที่ออฟฟิศ ผสมผสานการทำงานจากที่บ้าน เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 (57%)

องค์กรสานต่อ WFH

สำหรับมุมมองของพนักงานที่มีต่อนโยบายการทำงานที่บ้านหรือ Work From Home (WFH) พนักงานส่วนใหญ่กว่า 80% หวังให้มีการสานต่อนโยบายนี้ โดยผสมผสานการทำงานจากที่บ้านในบางวัน เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 และสร้างสมดุลระหว่างชีวิตทำงานและชีวิตส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม มีพนักงานราว 54% ยังเชื่อว่าการมาทำงานที่ออฟฟิศยังจำเป็นอยู่ เพราะจะช่วยให้การประสานงานระหว่างทีมดีขึ้น แต่ในภาพรวมพนักงานส่วนใหญ่ยังคาดหวังให้องค์กรมองที่ผลงานมากกว่าให้ความสำคัญเรื่องชั่วโมงการทำงาน และอยากให้ยืดหยุ่นเรื่องการทำงานมากขึ้น โดยพนักงานส่วนใหญ่กว่า 51% เชื่อว่าการทำงานจากที่บ้านได้ประสิทธิผลไม่ต่างจากการมาทำงานที่ออฟฟิศ ขณะที่ 37% เชื่อว่าพวกเขาทำผลงานได้ดีขึ้นกว่าตอนทำงานที่ออฟฟิศ มีเพียง 12% ที่คิดว่าคุณภาพการทำงานของพวกเขาลดลงเมื่อทำงานจากที่บ้าน

ช่วยพนักงานก้าวข้ามวิกฤต

ด้านผลกระทบจากโควิด-19 ที่เกิดขึ้นกับพนักงาน ส่วนใหญ่คิดว่าเป็นหน้าที่ขององค์กรและรัฐบาลที่ต้องยื่นมือช่วยเหลือพนักงานให้ก้าวข้ามวิกฤตนี้ ขณะเดียวกันมองว่าตนต้องพึ่งพาตัวเองด้วย

สำหรับสิ่งที่พนักงานคาดหวังจากองค์กร อันดับหนึ่งได้แก่การสนับสนุนการทำงานที่ยืดหยุ่นและการทำงานจากบ้าน (84%) รองลงมาคือต้องการความชัดเจนในการรับมือกับวิกฤต (78%) การลงทุนด้านเทคโนโลยีและปรับตัวสู่ดิจิทัล (78%) การสนับสนุนอุปกรณ์ (76%) และระบบ IT ให้รองรับการทำงานจากที่บ้าน (75%)

ด้านสิ่งที่พนักงานคาดหวังจากหัวหน้ามากที่สุดในช่วงเวลานี้ ได้แก่ การช่วยหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น (58%) การให้ความไว้วางใจในการทำงาน (55%) การมีความคิดสร้างสรรค์ และการสื่อสารที่ดี (52%) รวมถึงการสนับสนุนการทำงานที่ยืดหยุ่นให้กับพนักงาน (51%)

ไม่กล้าเสี่ยงย้ายงาน

สำหรับมุมมองที่มีต่อสถานการณ์หลังโควิด-19 พนักงานกว่า 56% เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น และ 36% มองว่างานเทคโนโลยีน่าจะมีอนาคตที่สุด แต่แม้ว่าส่วนใหญ่จะมองโลกในแง่ดี พนักงานกว่า 65% ยังไม่มีแผนเปลี่ยนงานในอีก 1 ปีข้างหน้า สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยยังไม่กล้าเสี่ยงย้ายงานใหม่ในช่วงที่สถานการณ์ยังไม่แน่นอน

3 ความปกติใหม่ ที่ต้องเร่งใช้

“ธิดารัตน์ กาญจนวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย กล่าวว่า ผลสำรวจของประเทศไทยกับอีกหลายประเทศมีภาพรวมค่อนข้างสอดคล้องกัน โดยสรุปได้ว่ามี 3 ความปกติใหม่ที่องค์กรและคนทำงานต้องเร่งปรับตัวให้ทัน

1. Lean – องค์กรปรับตัวให้บางมากขึ้น ใช้ดิจิทัลมากขึ้น ขณะที่รูปแบบการทำงานเป็นแบบผสมผสานการทำงานและที่ทำงาน เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการทำงาน

2. Digital – การสรรหาจำเป็นที่จะต้องมีความคล่องตัวและปรับสู่ดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งอเด็คโก้ได้ออกแบบหลักสูตรเพื่อช่วยฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) เตรียมพร้อม นอกจากนั้น HR ต้องปรับกลยุทธ์การสรรหาใหม่ หาคนที่มีทักษะที่ต่างจากเดิม ไม่สามารถจ้างพนักงานประจำได้มากเท่าที่เคย และอาจจะต้องมีการผสมผสานการจ้างงานแบบประจำและฟรีแลนซ์มากขึ้น

3. Work from Anywhere – ผลสำรวจครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นว่า คนไทยต้องการการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น พนักงานมีการเรียกร้องความไว้วางใจในการทำงานจากหัวหน้าให้ทำงานที่ไหนก็ได้ ซึ่งองค์กรอาจจำเป็นต้องฟังเสียงสะท้อนเหล่านี้และนำมาปรับใช้เพื่อรักษาบุคลากร และดึงดูดผู้สมัครหน้าใหม่ เพราะ work from home เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผู้สมัครใช้คัดเลือกองค์กรในปัจจุบัน

ที่สำคัญมีแรงงานเก่ง ๆ จำนวนมากผันตัวมาทำงานในรูปแบบฟรีแลนซ์ ดังนั้นการนำนโยบาย WFH มาใช้จะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และลดความเสี่ยงการระบาดของโรค

ฝนขณะเดียวกันฝ่าย IT จะต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเตรียมพร้อมและจัดหาเทคโนโลยีมารองรับการทำงานจากที่บ้าน เพราะจากผลสำรวจเราจะเห็นว่าคนทำงานกว่า 75% ต้องการการสนับสนุนอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการทำงานจากที่บ้าน

ทักษะของผู้นำยุคโควิด

“ธิดารัตน์” อธิบายว่า จากผลสำรวจของอเด็คโก้ในต่างประเทศ พนักงานต้องการผู้นำที่มีทักษะการเข้าใจผู้อื่น (empathy) แต่สำหรับในประเทศไทย คนไทยมีความเห็นอกเห็นใจเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว พนักงานจึงอยากได้ผู้นำที่ให้คำแนะนำและช่วยแก้ปัญหามากกว่า ดังนั้นทักษะที่พนักงานไทยในระดับหัวหน้างานขึ้นไปต้องมีคือทักษะด้านการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน (complex problem solving) และทักษะในการปรับตัว (adaptability) เพื่อรับมือกับปัญหาที่อาจไม่เคยเจอมาก่อน”