กรมวิทย์ แจงกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด 2 สายพันธุ์ “อัลฟ่า-เดลต้า” 7 รายก่อนหน้านี้ ยังไม่ใช่การกลายพันธุ์ใหม่ ย้ำหากปล่อยให้มีผู้ติดเชื้อมาก โอกาสกลายพันธุ์ก็สูงมากขึ้น
วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวในแถลงข่าวกรณีการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ว่า เมื่อการติดเชื้อมีจำนวนสูงมาก โอกาสการกลายพันธุ์จะสูงตามไปด้วย เมื่อไวรัสไปออกลูกหลานเพิ่มจำนวนในเซลล์อาจมีความผิดเพี้ยนกลายเป็นพันธุ์ใหม่ได้ ฉะนั้นหากปล่อยให้มีการติดเชื้อมากเท่าไหร่ โอกาสการกลายพันธุ์ก็สูงขึ้น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
อย่างสัปดาห์ที่ผ่านมาเราพบการติดเชื้อแบบผสมเจอ 2 สายพันธุ์ทั้ง อัลฟ่า และ เดลต้า ในคนคนเดียว ถึง 7 คน แต่ย้ำว่ายังไม่ได้ผสมกันเป็นไฮบริด หรือกลายเป็นพันธุ์ใหม่ที่มีองค์ประกอบ 2 สายพันธุ์ แต่ถ้าหากเราปล่อยให้เป็นแบบนี้มาก ๆ หรือติดเชื้อ 2 สายพันธุ์มาก ๆ ก็อาจเกิดการเปลี่ยนเป็นพันธุ์ใหม่ได้ และขอย้ำอีกว่าตอนนี้เรายังไม่เจอแบบไฮบริด และกรณีเจอ 2 สายพันธุ์ในคนเดียวยังไม่มีเพิ่มเติมจาก 7 รายก่อนหน้า
แต่ถ้าถามว่า หากมีการกลายพันธุ์อีก จะมีความรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ หรืออัตราการติดเชื้อจะเป็นอย่างไร ก็ต้องดูตำแหน่งการกลายพันธุ์ หากกลายพันธุ์แล้วมีขีดความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ มีการติดเชื้อเยอะขึ้น หรือทำอันตรายมากขึ้น ดื้อวัคซีนมากขึ้น ทางองค์การอนามัยโลกจะจัดเป็นการกลายพันธุ์น่าห่วง ซึ่งเราก็ติดตามอยู่ โดยกรมวิทย์ได้มีการร่วมกับเครือข่ายในการติดตามเรื่องนี้ สัปดาห์หนึ่งเราตรวจได้เป็นพันกว่าตัวอย่าง ทั้งที่มาตรฐานโลกระบุว่าต้องตรวจได้ 150 ตัวอย่าง ถือว่ามากกว่าสากลกำหนด ฉะนั้นเมื่อมีการกลายพันธุ์เราก็จะเจอแน่นอน ซึ่งเราก็ไม่อยากให้เจอ เราต้องช่วยกันลดการแพร่ระบาดลง