ในที่สุดมูลนิธิเชฟแคร์สได้มอบประกาศนียบัตรให้กับ 11 เยาวชนผู้สำเร็จการศึกษาจาก “โครงการสานฝันปั้นเชฟ” (Chef Cares Dream Academy) ซึ่งเป็นหลักสูตร 5 เดือนที่มูลนิธิเชฟแคร์ส, กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน, ศูนย์วิจัยการจัดการความรู้การสื่อสารและการพัฒนา (CCDKM) มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อมอบ “โอกาส” ให้กับเยาวชนที่เคยหลงผิด และเยาวชนด้อยโอกาส เข้ารับความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในการเป็นเชฟมืออาชีพ
โดยมีเยาวชน 5 คนได้รับโอกาสต่อเนื่องจากเชฟดังที่ร่วมเป็นอาจารย์พิเศษให้เข้าทำงานในร้านทันที ทั้งนั้น เพื่อ “ปั้นความฝันให้เป็นความจริง” สมดังตั้งใจ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
เบื้องต้น “มาริษา เจียรวนนท์” ประธานมูลนิธิเชฟแคร์ส กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่โครงการสานฝันปั้นเชฟสามารถส่งน้อง ๆ เยาวชนถึงฝั่งฝัน ซึ่งเป็นวันแห่งความภูมิใจของมูลนิธิเชฟแคร์ส และน้อง ๆ ทุกคน ทั้งยังเป็นความสุขใจที่ได้เห็นทุกคนเรียนจบหลักสูตร
“บางคนยังได้รับโอกาสจากเชฟให้เข้าทำงานในร้านอาหารของเชฟด้วย ขณะที่บางคนตั้งใจกลับบ้านเปิดร้านเล็ก ๆ ของตัวเอง ไปประกอบอาชีพสุจริต มีงานทำ มีรายได้ และเชื่อว่าความรู้ที่ทุกคนได้เรียนรู้จากเชฟต้นแบบจะช่วยให้สามารถเติบโตและอยู่ในสังคมอย่างมีคุณภาพ”
“ที่สำคัญยังทำให้พวกเขามีความพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตใหม่ ซึ่งมูลนิธิเชฟแคร์สมีความยินดีอย่างมากในความสำเร็จครั้งนี้ของน้อง ๆ เยาวชน เพื่อจะรอดูความสำเร็จในการสานฝันของแต่ละคนต่อไป นอกจากนั้น มูลนิธิเชฟแคร์สยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เพื่อสังคมเช่นนี้ต่อไป เพื่อร่วมสร้างคนคุณภาพ และสังคมแห่งการให้โอกาส ซึ่งเป็นความรู้สึกร่วมของสมาชิกเชฟแคร์สทุกคน”
ขณะที่ “เชฟนิค” ณัฏฐพล ภวไพบูลย์ ร้านวังหิ่งห้อย “เชฟแดน บาร์ค” ร้านเคเดนส์ บาย แดน บาร์ค และ “เชฟแอนดี้ ยัง” ร้านผัดไทย ไฟทะลุ ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีใจที่มีส่วนร่วมในโครงการที่ดี และได้เห็นเยาวชนจบหลักสูตร ตลอดจนมีความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ชีวิตการทำงานจริง
“เพราะการประกอบอาชีพในร้านอาหารไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพื่อพวกเขามีความตั้งใจ พวกเราในฐานะผู้ให้โอกาสก็พลอยยินดีด้วย และขอให้พวกเขาตั้งใจจริง สั่งสมประสบการณ์ อดทน และขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกคน”
สมชาย (นามสมมุติ) เยาวชนจากสถานพินิจผู้ได้รับโอกาสจากโครงการสานฝันปั้นเชฟ กล่าวเสริมว่า ขอบคุณมูลนิธิเชฟแคร์ส ขอบคุณโครงการสานฝันปั้นเชฟที่ทำให้ตนมีโอกาสครั้งใหญ่ในชีวิต ตลอดระยะเวลาที่อบรม ได้เรียนรู้จากอาจารย์ผู้สอน ได้พบเชฟต้นแบบที่เป็นแรงบันดาลใจ และได้รับคำแนะนำในการพัฒนาตนเองในเชิงจิตวิทยา
“นับเป็นหลักสูตรที่เตรียมความพร้อมให้ทั้งความรู้จริงในอาชีพ และความพร้อมในการปรับตัวเข้าสู่ชีวิตใหม่ ยืนยันว่าจะนำความรู้ทั้งหมดไปใช้ในการทำงานให้ดีที่สุด ไม่คิดฝันว่าจะมีวันนี้ วันที่ได้โอกาสครั้งใหญ่ วันที่ได้งานทำในร้านของเชฟระดับแถวหน้าของเมืองไทย ขอบคุณมูลนิธิเชฟแคร์ส และโครงการสานฝันปั้นเชฟที่ทำให้ฝันของผมเป็นจริง”
โครงการ “สานฝันปั้นเชฟ” เป็นโครงการของมูลนิธิเชฟแคร์สที่ให้โอกาสเยาวชนผู้เคยหลงผิดกลับตัว เพื่อมีอาชีพสุจริตและสามารถกลับคืนสู่สังคมอย่างมีคุณภาพ รวมถึงเยาวชนผู้ด้อยโอกาส โดยมูลนิธิเชฟแคร์สจะสนับสนุนทุนการศึกษาและสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์จะเป็นผู้จัดหลักสูตรการเรียนการสอน รวมถึงการฝึกงานในร้านของเชฟดัง ซึ่งเป็นสมาชิกมูลนิธิเชฟแคร์ส
สำหรับโครงการเชฟแคร์สเริ่มต้นดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เพื่อส่งมอบความห่วงใยแทนคำขอบคุณให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในสถานการณ์โควิด-19 ผ่านเมนูอาหารกลางวัน ที่รังสรรค์โดยเชฟยอดฝีมือระดับแถวหน้าของเมืองไทยหมุนเวียนเสิร์ฟเมนูรสชาติดีมีคุณค่าทางโภชนาการ
กระทั่งต่อยอดมาสู่การจัดตั้ง “มูลนิธิเชฟแคร์ส” ซึ่งมีเจตนารมณ์ในการส่งเสริมศาสตร์แห่งอาหารไทยที่ปรุงด้วยความพิถีพิถันให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับโลก ทั้งยังจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้แก่สังคมอย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญ ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนที่รักการปรุงอาหารได้เรียนรู้ เพื่อให้พวกเขาเติบโตเป็นเชฟระดับแนวหน้า และสนับสนุนวิถีอาหารไทยให้ทั่วโลกรู้จักในฐานะศูนย์รวมศาสตร์ของอาหารดีที่สุดของเอเชีย