เอชอาร์ คอร์เนอร์
ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์ https://tamrongsakk.blogspot.com
เมื่อทำงานไปถึงจุด ๆ หนึ่ง หลายคนอาจมีอาการที่เรียกว่า “หมดใจ” หรือ “หมดไฟ” ในการทำงาน หรือที่เรียกทับศัพท์ว่า “burnout syndrome” ซึ่งอาการหมดไฟในการทำงานไม่ได้เกิดเฉพาะกับคนที่ทำงานเป็นลูกจ้างพนักงานเท่านั้นนะครับ อาจเกิดกับคนที่เป็นนายจ้าง หรือเจ้าของกิจการได้ด้วย
อาการของคนที่เป็น Burnout Syndrome มีอะไรบ้าง ?
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
1.เริ่มบ่นในเรื่องงานกับคนรอบข้าง
2.ไม่มีความสุขในงานที่ทำ เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ท้อแท้สิ้นหวัง
3.มีความรู้สึกแทบตลอดเวลาว่างานที่ทำไม่ได้อย่างใจ หงุดหงิด เครียด
4.นอนไม่หลับ ในหัวจะคิดแต่เรื่องงานวนเวียนเหมือนพายเรือในอ่าง รู้สึกเหมือนนอนไม่พอ
5.ไม่อยากจะพูดคุยกับใคร เก็บตัว พูดคุยกับคนรอบข้างน้อยลง
6.อารมณ์แปรปรวน ขึ้น ๆ ลง ๆ ก้าวร้าว พูดจารุนแรงกับคนรอบข้าง ฟิวส์ขาดง่าย
7.มีอาการที่หาสาเหตุไม่ได้ และมักจะเป็นตอนที่ไปทำงาน เช่น ปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ในวันทำงาน พอวันหยุดอาการมักทุเลาลง
ดังนั้น แนวทางการบรรเทาอาการ “Burnout Syndrome” ควรทำยังไงดี
1.หาคนระบายความเครียด เช่น พูดคุยกับคนที่บ้านหรือเพื่อนที่เราสนิท เพื่อช่วยกันคิดหาหนทางออก
2.ดูแลสุขภาพพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่
3.ปรับวิธีคิดของเราใหม่ ว่าเราไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล ต้องรู้จักการปล่อยวาง
4.ไปปฏิบัติธรรม ทำสมาธิ
5.จัดตารางการแบ่งเวลาระหว่างเวลาทำงานกับเวลาส่วนตัวเสียใหม่ ไม่ให้ล้ำเส้นกันมากเกินไป
6.ไม่ควรแก้ปัญหาด้วยการดื่มแอลกอฮอล์ระบายความเครียด เพราะไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหาแบบยั่งยืน แถมยังจะทำให้ปัญหามากขึ้นกว่าเดิม
7.พักร้อน เดินทางท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ ดูหนัง ฟังเพลง กับเพื่อนฝูงที่สนิทหรือคนรู้ใจ
8.วันหยุดควรเป็นวันหยุดของเราจริง ๆ โดยการหากิจกรรมทำในวันหยุดกับเพื่อนฝูงหรือคนรู้ใจ
9.ไปทำบุญกับสถานที่ที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น สถานเลี้ยงเด็กพิการซ้ำซ้อน จะได้เห็นว่าปัญหาของเราไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุด
10.ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรนำเอางานกลับมาทำที่บ้าน บ้านควรเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับเราจริง ๆ
11.ฝึกวินัยในการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที 5 ครั้งต่อสัปดาห์ อย่าหาข้ออ้างกับตัวเองว่าไม่มีเวลา
12.ลดการเสพข้อมูลข่าวสารจากสื่อโซเชียลลง จะทำให้ลดความเครียดจากเรื่องที่ไม่จำเป็นลงได้เยอะ
ก็คงนำเรื่องนี้มาแชร์ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังเริ่มจะมีอาการ burnout หรือคนที่เป็นอยู่แล้วจะได้ลดการหมดไฟในการทำงานลงได้
ปัญหาทุกอย่างแก้ได้ด้วยปัญญา และสติครับ