กระทรวงแรงงาน ผนึกภาคเอกชน-การศึกษา สร้างบุคลากรด้านรถอีวี

ภาพ: Maxim Hopman/unsplash

กระทรวงแรงงานร่วมมือภาคเอกชน และภาคการศึกษา พัฒนาแรงงานไทยด้านยานยนต์ไฟฟ้า ตอบโจทย์ตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการ

วันที่ 23 มีนาคม 2565 กระทรวงแรงงานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการบริการจัดหางานและพัฒนาทักษะการให้บริการด้านขนส่งสาธารณะ กับบริษัท ไทย สมายล์บัส จำกัด บริษัท อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต จำกัด และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ณ บริเวณลานชั้น 1 อาคารกระทรวงแรงงาน เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่กำลังแรงงานให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะที่เกี่ยวข้องยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV)

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญและมีนโยบายส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทน การส่งเสริมให้เกิดการใช้ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เพื่อทดแทนการใช้พลังงานจากน้ำมัน

“ปัจจุบันประเทศไทยมีความตื่นตัวและหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ดังนั้น การเตรียมความพร้อมให้แก่กำลังแรงงานให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะที่เกี่ยวข้องจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อรองรับการเจริญเติบโตและเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องในด้านดังกล่าว เพื่อส่งเสริมการมีงานทำ”

การดำเนินโครงการและการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือของ 3 ภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา ระหว่างกระทรวงแรงงาน บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด บริษัท อี สมาร์ททรานสปอร์ต จำกัด และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

เป็นความร่วมมือของหน่วยงานที่อยู่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มาทำงานร่วมกัน ประโยชน์จึงเกิดกับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ช่วยส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน ลดปัญหาการว่างงานให้แก่นักศึกษาจบใหม่ ให้ได้รับโอกาสการพัฒนาทักษะที่จำเป็นและมีความพร้อมเข้าสู่การทำงาน

กลุ่มแรงงานที่อยู่ในระบบได้รับการพัฒนาทักษะ มีความรู้ความสามารถที่สูงขึ้น เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพต่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งผู้ประกอบกิจการมีแรงงานที่มีคุณภาพ สุดท้ายคือประชาชนได้รับบริการอย่างมีคุณค่า

นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การร่วมมือครั้งนี้มีการจัดอบรมให้ความรู้แก่พนักงานของบริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด และบริษัท อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต จำกัด และเตรียมความพร้อมจัดฝึกอบรมให้แก่แรงงานใหม่ เพื่อบรรจุเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานขับรถโดยสารไฟฟ้า ซึ่งต่อจากนี้จะยกระดับให้เป็นกัปตัน ส่วนพนักงานต้อนรับบนรถโดยสารไฟฟ้า จะยกระดับให้เป็นบัสโฮสเตส

เพื่อให้สอดคล้องกับคุณค่าของงาน อาชีพ และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ของการใช้รถเมล์ไฟฟ้า ที่มีความต้องการกำลังแรงงานมากกว่า 7,000 คน ในระยะ 3 ปี นอกจากนี้ ได้วางแผนจัดฝึกอบรมเพื่อบรรจุแรงงานใหม่เข้าทำงานในตำแหน่งอื่น ๆ ด้วย

วันนี้ การบูรณาการความร่วมมือของ 3 ภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้การพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถของแรงงานตรงกับความต้องการและมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนตระหนักและเห็นความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ลดมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมต่อไป

นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า ความร่วมมือในวันนี้เป็นการส่งเสริมการมีงานทำ ด้วยการให้บริการจัดหางานด้วยระบบสารสนเทศของกรมการจัดหางาน ในขณะที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พัฒนาหลักสูตรการอบรมฝีมือแรงงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในหลักสูตรมาตรฐานการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถโดยสารไฟฟ้า และหลักสูตรมาตรฐานการปฏิบัติงานของพนักงานต้อนรับรถโดยสารไฟฟ้า

สำหรับตำแหน่งพนักงานขับรถโดยสารไฟฟ้า จะได้เรียนรู้การใช้งานเกี่ยวกับอุปกรณ์และระบบควบคุมของรถโดยสารระบบไฟฟ้า กฎ ระเบียบ มารยาท บุคลิกภาพ โครงสร้างอุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกของรถโดยสารไฟฟ้า รวมถึงมาตรการการปฏิบัติกรณีฉุกเฉินได้

ส่วนตำแหน่งพนักงานต้อนรับรถโดยสารไฟฟ้า จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ เทคนิคการให้บริการด้วยใจ การคิดเงิน ทักษะเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ e-payment รวมถึงการดูแลความเรียบร้อยภายในรถขณะเดินทาง

ในส่วนของนายจ้างจะรับทราบและมั่นใจได้ว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ที่มีความรู้และทักษะฝีมือตรงตามตำแหน่งงานที่ต้องการ