ย้อนอดีตสู่ยุค ร.๕ เที่ยวงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว

หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร (ร.10) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้หน่วยราชการในพระองค์จัดงานฤดูหนาวในชื่อ “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า พื้นที่บริเวณงานก็ถูกเนรมิตให้เป็นบรรยากาศย้อนยุค สำหรับคนที่เข้าร่วมงานก็เหมือนเป็นมณีจันทร์แห่งทวิภพที่เดินทะลุกระจกย้อนอดีตไปร้อยกว่าปี

ภายในงานแบ่งการจัดพื้นที่เป็น 3 โซน ได้แก่ 1.โซนพระลานพระราชวังดุสิต จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมสยามประชารำฦก

นำเสนอพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของ ร.5 และ ร.9 บริเวณโดยรอบพระลานตกแต่งเป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์กว่า 30 ชนิด ลานน้ำพุ และมีไฮไลต์อยู่ที่เรือสุพรรณหงส์จำลองขนาดเท่าของจริง ตั้งเด่นอยู่กลางพระลานที่เกือบทุกคนมาถึงจะต้องไปถ่ายรูปคู่ และคุณตำรวจที่เฝ้าอยู่รอบบริเวณพระลานที่แต่งชุดในแบบไทยย้อนยุคเช่นเดียวกัน

ส่วนนิทรรศการและกิจกรรมสยามประชารำฦก ได้นำเสนอพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 อาทิ การก่อตั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย การไฟฟ้า การประปา การไปรษณีย์ โครงการกังหันชัยพัฒนา รวมทั้งยังมีการแสดงวิธีทำหัตถกรรมชั้นสูงในราชสำนักแบบต่าง ๆ เช่นการร้อยดอกไม้สด ปักผ้า และสาธิตการทำขนมหวานหลากหลายเมนูจากในวังที่หาชมได้ยาก

อีกหนึ่งไฮไลต์ในโซนนี้ คือ ร้านไปรสนีย์กรุงสยาม ซึ่งเป็นการจำลองอาคารไปรสนียาคาร หรือที่ทำการไปรษณีย์แห่งแรกของไทย ไม่เพียงแค่จำลองอาคารเท่านั้น แต่ยังเปิดให้บริการรับฝาก-ส่งจดหมายและสิ่งของพร้อมประทับตราประจำวันในรูปแบบจุลศักราช รวมทั้งการปิดผนึกครั่งหลังซองจดหมายตามแบบที่ทำการไปรษณีย์ยุคแรก มีการจำหน่ายแสตมป์ สิ่งสะสม และสินค้าที่ระลึกลวดลายพิเศษออกแบบเฉพาะงานนี้เท่านั้น

2.โซนร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ และร้านค้ารับเชิญ เช่น ร้านศิลปาชีพ 904 ร้านภูฟ้า ร้านจิตรลดา ร้านมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก

ร้านมูลนิธิโครงการหลวง ฯลฯ ในบริเวณสนามเสือป่า นอกจากร้านค้าแล้วยังมีกิจกรรมสอยต้นกัลปพฤกษ์ในราคา 25 บาทให้เสี่ยงโชคกัน รางวัลมีตั้งแต่รางวัลเล็กปลอบใจอย่างนมกล่อง ไปจนถึงรางวัลที่ 1 เป็นเครื่องซักผ้า

3.โซนร้านอาหารและร้านค้าในแนวคิด ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร สืบสานชุมชน วิถีไทย ในบริเวณสนามเสือป่า มีมาร่วมมากกว่า 30 ร้าน ส่วนมากเป็นร้านขนมและอาหารโบราณหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ขนมล่าเตียง ขนมเรไร ขนมดอกอัญชัน ขนมเกสรลำเจียก เป็นต้น โซนนี้คนต่อคิวกันแน่นมากช่วงเย็น ขอแนะนำให้ไปช่วงเช้าหรือบ่าย มิฉะนั้นอาหารอาจหมดก่อน นอกจากร้านอาหารก็มีเครื่องปั้นดินเผาจากเกาะเกร็ดและของที่ระลึกอื่น ๆ

ประชาชนที่เข้าร่วมชมงานต่างยิ้มแย้ม ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งต่าง ๆ ที่จัดแสดงในงาน คนส่วนใหญ่สวมชุดไทยยุคสมัย ร.5 เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ และถ่ายรูปเก็บความทรงจำกันเต็มที่ นอกจากการถ่ายภาพกันเองด้วยกล้องหรือใช้โทรศัพท์มือถือที่เตรียมไปเองแล้ว

ใครอยากเก็บภาพสไตล์ย้อนยุคไว้เป็นที่ระลึก ภายในงานก็มีสตูดิโอถ่ายภาพโบราณให้บริการในราคาเริ่มต้น 99 บาท และสำหรับใครที่ไม่มีชุดไทยย้อนยุคก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีบริการให้เช่าชุดกระจายอยู่หลายจุดในราคา 250 บาท

อภินันทา ชัยยา วัย 60 กว่าที่มาเที่ยวงาน พร้อมเดอะแก๊งวัยเกษียณ 7 คน เล่าถึงความรู้สึกว่า เธอชอบการจัดสวนดอกไม้มากที่สุด อีกส่วนที่ประทับใจคือเรือสุพรรณหงส์ที่ตั้งโชว์กลางพระลาน รวมถึงนิทรรศการการรถไฟ การประปา และตำรวจที่แต่งกายแบบสมัยก่อน ในอนาคต ถ้ามีงานอย่างนี้จัดอีกก็อยากมาร่วมงานอีก เพราะเธอมองว่าผู้สูงอายุอย่างตัวเธอเองควรจะมาเรียนรู้เรื่องแบบนี้

ส่วน พลวัฒน์ อุดมกิจทวีวัฒน์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่มาเที่ยวงานพร้อมกับครอบครัว บอกว่า โดยส่วนตัวไม่ได้มีความรู้สึกร่วมกับวัฒนธรรมความเป็นไทยมากนัก เนื่องจากไม่ค่อยผูกพันกับวัฒนธรรมความเป็นไทย และเขาแสดงความเห็นอีกว่า หากต้องการให้วัยรุ่นสนใจเรื่องวัฒนธรรมไทยมากขึ้น ควรปลูกฝังเรื่องความเป็นไทยมาตั้งแต่เด็ก เหมือนวัยรุ่นในญี่ปุ่นที่ใส่ชุดกิโมโนอย่างไม่เขินอาย เนื่องจากคุ้นชินกับการแต่งกายแบบนั้นเป็นเรื่องปกติ

งาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” จะจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 11 มีนาคมนี้ สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในวันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 10.30-21.00 น. ส่วนวันศุกร์-เสาร์ เวลา 10.30-22.00 น. งานนี้


ไม่ได้บังคับให้แต่งชุดไทยย้อนยุค ขอให้เป็นชุดสุภาพไม่ใส่กางเกงขาสั้น แต่ถ้าใครอยากแต่งชุดไทยถ่ายรูปเก็บไว้ดูสักครั้ง การแต่งไปเที่ยวงานนี้ก็เป็นโอกาสเหมาะอย่างยิ่ง