เล่าปุนเถ้ากง ศาลเจ้า 200 ปี ศรัทธาแห่งทรงวาด

ผู้เขียน : ชัชพงศ์ ชาวบ้านไร่
ช่างภาพ : สมจิตร์ ใจชื่น

บนพื้นที่ 2 ไร่เศษ ท่ามกลาง “ถนนทรงวาด” หน้าโรงเรียนเผยอิง เป็นที่ตั้งของ “เล่าปุนเถ้ากง” ศาลเจ้าในความดูแลของสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ที่ “เจ้าสัว” หลายคนศรัทธา แหล่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีน และขอพรเรื่องการงาน ค้าขาย มานานกว่า 200 ปี

“วรรณา จิรบันดาลสุข” ผู้จัดการศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน หลักฐานถูกบันทึกไว้ที่ระฆังทองภายในศาล เดิมทีเป็นศาลเล็ก ๆ อยู่ในพื้นที่ที่เป็นโรงเรียนเผยอิงในปัจจุบัน เป็นศาจเจ้าที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีน ที่ได้เดินทางมาทำมาค้าขายและก็อาศัยอยู่ในแผ่นดินไทย

วรรณา จิรบันดาลสุข
วรรณา จิรบันดาลสุข

ชาวจีนในสมัยนั้นได้รวมตัวกัน เชิญองค์เทพ “เล่าปุนเถ้ากง” มาจากประเทศจีน เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และสร้างศาลขึ้นมาเมื่อ พ.ศ. 2367 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 3 ดังนั้น พ.ศ. 2567 ก็จะครบ 200 ปีพอดี

ในอดีต หน้าศาลเจ้าเป็นท่าเรือ แหล่งรวมของคนจีนที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเมืองไทย ซึ่งจำนวนมากที่ไม่มีที่เรียนหนังสือ “พระอนุวัฒน์ราชนิยม” (ยี่กอฮง) ผู้นำจีนในสมัยนั้น จึงได้รวบรวมเงินกับพ่อค้าคนจีน ประมาณ 3 แสนบาท เพื่อก่อตั้ง “โรงเรียนเผยอิง” ให้ชาวจีนได้เรียนหนังสือ จึงรื้อศาลเจ้าเดิมและสร้างใหม่ในพื้นที่ปัจจุบันเมื่อ พ.ศ. 2460

ศาลเจ้าที่เห็นกันในปัจจุบัน แม้สร้างใหม่ตั้งแต่ พ.ศ. 2460 แต่มาแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2488 หรือ 28 ปีให้หลัง เนื่องจากติดภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ศาลเจ้าใหม่จึงมีอายุ 79 ปี

เขตสัมพันธวงศ์ก็มีศาลเจ้าทั้งหมด 22 แห่ง เล่าปุนเถ้ากงเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่และมีสถาปัตยกรรมสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ลักษณะอาคาร การแกะลาย เป็นสกุลช่างจีนแต้จิ๋ว เสาในศาลเจ้าเป็นรูปทรงเหมือนเม็ดข้าว อาคารเป็นแบบ “ซี้เตี๋ยมกิม” หรือ 4 ตำแหน่งทองคำ สถาปัตยกรรมทางตอนใต้ของคนจีนในสมัยนั้น

ข้างหลังคือ “เต่าดำ” อยู่ตรงเท้าขององค์เทพ “มังกรเขียว” ด้านซ้าย “เสือขาว” ด้านขวา และด้านหน้าคือ “หงส์แดง” เป็นทิศของ “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” เป็นศาลเจ้าที่ฮวงจุ้ยโดดเด่น ไม่อับ สะอาดสะอ้าน ปลอดโปร่ง โล่งสบาย ใครเข้ามากราบไหว้ก็จะได้รับพลังที่ดี

เสื่อผืนหมอนใบสู่วันร่ำรวย

สำหรับการสักการะเทพเจ้า ศาลแห่งนี้มีองค์ประธาน คือ “เทพเฮี่ยงเทียนเสี่ยงตี่” หรือ เทพตั่วเหล่าเอี๊ยกง ชาวจีนย่านนี้เชื่อกันว่าโดดเด่นเรื่องการงานและทำมาค้าขาย

ส่วนเทพเล่าปุนเถ้ากงโดดเด่นทุกเรื่อง เพราะเป็นเทพปกครองท้องถิ่นนั้น ๆ แต่ละจังหวัดจะมีเทพเล่าปุนเถ้ากงทุกที่ หรือแม้แต่ตลาดเล็ก ๆ ก็จะเชิญองค์เทพไปสักการะเป็นที่ยึดเหนี่ยว ถามและขอได้ทุกเรื่องตั้งแต่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย

ศาลนี้มีเทพเล่าปุนเถ้ากงอยู่ 2 องค์ องค์แรกทรงอิริยาบถยืน อัญเชิญมาจากจีนตั้งแต่ 200 ปีก่อน คนจีนเสื่อผืนหมอนใบเดินทางโดยที่ไม่รู้ว่าต้องเจออุปสรรคอะไรบ้าง เทพที่เชิญมาต้องประทับยืนพร้อมที่จะฝ่าฟันทุกอย่าง ส่วนอีกองค์เป็นอิริยาบถนั่ง เครื่องทรงขุนนางจีนถือคทายู่อี่ ถือก้อนทอง สร้างในยุคหลังเมื่อ พ.ศ. 2525 สื่อว่า ผู้สร้างมีเงินแล้ว ร่ำรวยแล้ว

“ถือเคล็ดกันว่า ถ้าจะเริ่มธุรกิจ หรือบุกเบิกอะไรใหม่ ๆ ให้ไหว้องค์เดิมที่ประทับยืน แต่ถ้าขอโชคลาภให้มาขอองค์ประทับนั่ง”

ศาลเจ้า เจ้าสัว

วรรณากล่าวว่า ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่อยู่ในความดูแลของสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย จึงเป็นศาลที่มี “เจ้าสัว” และผู้ใหญ่ในบ้านเมืองสนับสนุนดูแล นอกจากเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแล้ว ยังเป็นที่ช่วยเหลือสังคมด้วย

“เจ้าสัว หรือผู้ใหญ่ในประเทศไทย ท่านบอกว่า เราได้มีความร่ำรวย มีชีวิตที่ดีในประเทศไทย เพราะฉะนั้น ศาลเจ้าก็เป็นส่วนหนึ่งของการรวบรวมเงินบริจาคต่าง ๆ ช่วยเหลือสังคมเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน”

เล่าปุนเถ้ากงเคยบูรณะครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ. 2549 เป็นการเร่งด่วน เนื่องจากสภาพทรุดโทรมมาก ศาลทรุด เอียงข้าง รั้วต่าง ๆ ล้มหมด ซุ้มประตูที่เห็นก็เพิ่งสร้างใหม่เช่นกัน แต่ใช้เวลาเพียง 8 เดือนเท่านั้น ปิดทอง เขียนสีใหม่ทั้งหมด

โดยรวบรวมเงินจากผู้ใหญ่ในสมาคมทั้งหมด 8 ท่าน เป็นเงิน 10 ล้านบาท เจ้าสัว “เจริญ สิริวัฒนภักดี” และ “ธนินท์ เจียรวนนท์” ก็ร่วมบริจาคคนละ 2 ล้านบาท

ศรัทธาแห่งทรงวาด

ทรงวาดวันนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก ในอดีตเป็นย่านขายพืชผล ปัจจุบันธุรกิจใหม่ก็เข้ามาตามยุคสมัย เช่น ร้านอาหาร หรือกิจการใหม่จากลูกหลานของคนจีน คนรุ่นเก่า อากง อาม่า ก็ค่อย ๆ หายไปเป็นรุ่นใหม่ที่เข้ามาสักการะแทน

ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากงยังเปิดให้สถานศึกษาต่าง ๆ เข้ามาศึกษาศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม เป็นแหล่งที่คนมาเดินท่องเที่ยว มาชมศิลปะที่ยังสมบูรณ์เกือบเท่าอดีต ซึ่งเหลืออีกไม่มากแล้วในพื้นที่

“ศาลเจ้าเราเป็นส่วนหนึ่งของถนนทรงวาด เป็นพื้นที่สักการะและศรัทธาของชุมชน มีกิจกรรมอะไรที่ศาลเจ้าให้ความร่วมมือได้ เราก็ยินดี เราก็ให้พื้นที่ในการจัดกิจกรรม”

ศาลแห่งนี้ยังเป็นผู้นำการลดมลพิษมากว่า 10 ปีแล้ว เริ่มจากสร้างเตาลดควันดำเวลาเผาไหม้ต่าง ๆ เหลือควันที่ขาวขึ้น ช่วยลดมลพิษลงระดับหนึ่ง ไม่ให้กระทบกับชาวบ้านรอบ ๆ

ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง เปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. โดยช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปี คืนวันไหว้ จะเปิดให้คนเข้าขอพรตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า