
การที่ไอดอล “เคป๊อป” (K-POP) จะรักษาความนิยมได้อย่างยั่งยืนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละปีมีวงหน้าใหม่เดบิวต์เข้ามาในอุตสาหกรรมอยู่เรื่อย ๆ ยิ่งการแข่งขันสูง Life Cycle ของแต่ละวงก็ถูกท้าทายมากขึ้นทุกวัน
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น หลายวงก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ และสามารถยืนระยะอยู่ในวงการได้ไม่น้อยกว่า 1 ทศวรรษ หนึ่งในนั้นคือ “เซเว่นทีน” (SEVENTEEN) บอยแบนด์ Gen 3 ที่มีอายุครบ 10 ปีในวันนี้ (26 พ.ค.) พอดี
“ประชาชาติธุรกิจ” ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักวง “SEVENTEEN” ให้มากขึ้นผ่าน 10 เรื่องราว ที่เกิดขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
1.ชื่อ “SEVENTEEN” แต่ไม่ได้มี 17 คน
หนึ่งในเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับวง SEVENTEEN คือจำนวนสมาชิก แม้ชื่อวงจะมีความหมายว่า “17” แต่จริง ๆ แล้ววงนี้มีสมาชิกเพียง 13 คน และแบ่งการทำงานเป็น 3 ยูนิต ได้แก่
- HipHop : เอสคุปส์ (S.Coups), วอนอู (Wonwoo), มินกยู (Mingyu) และเวอร์นอน (Vernon)
- Performance : โฮชิ (Hoshi), จุน (Jun), ดิเอท (THE 8) และดีโน่ (Dino)
- Vocal : อูจี (Woozi), จองฮัน (Jeonghan), โจชัว (โจชัว), ดีเค (DK) และซึงกวาน (Seungkwan)
ส่วนที่มาของชื่อวงมาจาก 13 (จำนวนสมาชิก) + 3 (จำนวนยูนิต) + 1 (รวมกันเป็น 1 วง) = 17 (SEVENTEEN)
2.แฟนคลับชื่อว่า ”กะรัต”
เป็นเรื่องปกติของวงการเคป๊อป ที่ศิลปินแต่ละวงจะมีชื่อ “แฟนด้อม” ไว้เรียกแฟนคลับของตนเอง สำหรับแฟนคลับของวง SEVENTEEN มีชื่อเรียกว่า “กะรัต” (CARAT) หรือหน่วยวัดคุณภาพของเพชร ซึ่งความหมายที่เชื่อมโยงกับวง คือคนที่ทำให้ “เพชร” (สมาชิก) เปล่งประกายบนเวที
ทั้งนี้ คำว่า “กะรัต” ถูกใช้เป็นชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ที่มีการประกาศบนเวทีคอนเสิร์ต LIKE SEVENTEEN – Boys Wish Encore เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2559
และนับแต่นั้นเป็นต้นมา วันที่ 14 ก.พ. ของทุกปี ก็กลายเป็นวันเกิดของ “กะรัต” ที่เหล่าสมาชิกจะมาร่วมอวยพร หรือทำเซอร์ไพรส์บางอย่าง เช่น ในปีนี้มีการปล่อยเพลงพิเศษ “Encircled” ออกมาเป็นของขวัญให้เหล่ากะรัตด้วย
3.สีและแคแร็กเตอร์ประจำวง
อีกสิ่งที่ทำให้วัฒนธรรมแฟนด้อมของแต่ละวงสมบูรณ์ คือสีประจำวงที่จะไปปรากฏบนสิ่งของหรืออุปกรณ์เชียร์ต่าง ๆ โดยสีประจำวงของ SEVENTEEN คือ Rose Quartz & Serenity สีโทนชมพู-ฟ้าที่สะท้อนถึงความอบอุ่นและความสุขุมนุ่มลึก
นอกจากนี้ SEVENTEEN ยังมีแคแร็กเตอร์ประจำวงชื่อว่า “บงบง” (Bongbongie) ที่ออกแบบโดย “มินกยู” หนึ่งในสมาชิกของวง ซึ่งเวลาที่วงจัดคอนเสิร์ตหรืออีเวนต์ตามที่ต่าง ๆ จะมีมาสคอตของ “บงบง” ไปปรากฏตัวอยู่เสมอ

4.Self-Producing Idol
SEVENTEEN เป็นวงที่ได้รับการยอมในฐานะ “Self-Producing Idol” หรือวงที่ทำเพลงเอง โดยมี “อูจี” หัวหน้าทีมโวคอลเป็นแกนหลักในการทำดนตรีและแต่งเนื้อร้อง ทำให้ทุกเพลงที่วงปล่อยออกมามีลูกเล่นและซิกเนเจอร์เฉพาะตัว
5.เชื่อมความเป็นทีมด้วย “แหวน”
ภาพจำที่โดดเด่นของวง SEVENTEEN คือ “แหวน” ประจำวงที่สมาชิกแต่ละคนใส่ติดตัว สิ่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึง “ทีมเวิร์ก” อันทรงพลัง โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา SEVENTEEN มีแหวนประจำตัวทั้งหมด 6 รุ่น และจะมีการสวมแหวนวงใหม่ เมื่อมีการปล่อยผลงานอัลบั้มเต็มชุดใหม่ออกมา
ปัจจุบัน SEVENTEEN ปล่อยผลงานอัลบั้มเต็มออกมาแล้ว 5 ชุด ได้แก่
- Love & Letter ปี 2559
- Teen, Age ปี 2560
- An Ode ปี 2562
- Face the Sun ปี 2565
- Happy Burstday ปี 2568 (อัลบั้มฉลองครบ 10 ปี ที่สมาชิกแต่ละคนมีเพลงโซโล่ของตนเอง)

6.ตำนาน “ห้องเขียว”
ก่อนที่ SEVENTEEN จะเดบิวต์อย่างเป็นทางการในปี 2558 ต้นสังกัด “Pledis Entertainment” ได้ทำโปรเจกต์ “SEVENTEEN TV” รายการเรียลลิตี้ถ่ายทอดชีวิตประจำวัน และการฝึกซ้อมของเด็กฝึกชายหลายสัญชาติในห้องซ้อมสีเขียวที่แฟนคลับเรียกกันติดปากว่า “ห้องเขียว” จนท้ายที่สุดเหลือเด็กฝึกในโปรเจกต์อยู่ 13 คน (สมาชิกปัจจุบัน)
ต่อมาในปี 2558 Pledis Entertainment ได้ทำโปรเจกต์ใหม่ร่วมกับช่อง MBC เป็นรายการ “SEVENTEEN Project: Big Debut Plan” ที่ให้เด็กฝึกได้แสดงโชว์เคสเพลงต่าง ๆ ก่อนเดบิวต์เป็นบอยแบนด์วงใหม่ชื่อว่า “SEVENTEEN”
7.ครบเครื่องเรื่อง “วาไรตี้”
นอกจาก SEVENTEEN จะเป็นบอยแบนด์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถด้านการร้องและเต้นแล้ว ความสามารถด้าน “วาไรตี้” ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดย SEVENTEEN มีรายการวาไรตี้ประจำวงอย่าง “GOING SEVENTEEN” ที่ฉายบนยูทูบ (YouTube) พร้อมซับไตเติลภาษาต่าง ๆ
เนื้อหาของรายการมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเล่นเกม ออกทริป หรือแสดงบทบาทสมมุติ ทำให้ได้เห็นเสน่ห์และมุมที่คาดไม่ถึงของสมาชิกแต่ละคน จนกระทั่งเกิดฐานแฟนคลับกลุ่มใหม่อย่าง “คิวบิก” (Cubic) หรือคนที่ชื่นชอบรายการ GOING SEVENTEEN แต่ยังไม่ได้เป็น “กะรัต” ที่ติดตามผลงานอื่น ๆ ด้วย

8.นักกวาดรางวัล “แดซัง”
ความสำเร็จของ SEVENTEEN ไม่ได้การันตีด้วยสถิติยอดสตรีมมิ่งและยอดขายอัลบั้มเท่านั้น แต่ยังมีรางวัล “แดซัง” หรือรางวัลใหญ่ประจำปีที่การันตีความเป็นศิลปิน “แถวหน้า” ให้กับ SEVENTEEN ด้วย
ในปี 2566-2567 ที่ผ่านมา SEVENTEEN กวาดรางวัลแดซังจากหลายเวที เช่น Album of the Year ในงาน MAMA (Mnet Asian Music Awards) จากอัลบั้ม FML และ Artist of the Year จากอัลบั้ม SEVENTEENTH HEAVEN เป็นต้น
9.จัดคอนเสิร์ตที่ Nissan Stadium
หนึ่งในเหตุการณ์ที่เป็นความภาคภูมิใจของ SEVENTEEN และกะรัต คือการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ “FOLLOW AGAIN” ณ Nissan Stadium หรือ Yokohama International Stadium สนามกีฬาที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น รองรับผู้ชมกว่า 70,000 ที่นั่ง เมื่อวันที่ 25-26 พ.ค. 2567
การจัดคอนเสิร์ตที่ Nissan Stadium ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องได้รับการการันตีเรื่องความนิยม และฐานแฟนคลับในญี่ปุ่นที่แข็งแรง เพื่อยื่นข้อเสนอการใช้สถานที่ที่ต้องจองคิวเป็นแรมปี
ทั้งนี้ SEVENTEEN เป็นศิลปินเคป๊อปวงที่ 2 ที่ได้ขึ้นแสดงต่อจาก “ดงบังชินกิ” หนึ่งในวงระดับตำนานที่เคยทำการแสดงที่ Nissan Stadium เมื่อปี 2556 จำนวน 2 รอบ และปี 2561 จำนวน 3 รอบ

10.ศิลปินวงแรกที่จัดอีเวนต์ ณ สะพานจัมซู
วานนี้ (25 พ.ค. 2568) SEVENTEEN จัดอีเวนต์พิเศษ “B-DAY PARTY: BURST Stage” เพื่อเฉลิมฉลองขวบปีที่ 10 ของวง ณ สะพานจัมซู กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
เหล่ากะรัตต่างให้การตอบรับกับอีเวนต์นี้เป็นอย่างดี บางส่วนที่จองบัตรเข้าชมการแสดงไม่ทันถึงกับเช่าเรือยอตช์ล่องแม่น้ำฮันมารอชมการแสดงแบบติดขอบเวทีเลยทีเดียว
สมาชิกแต่ละคนก็ไม่ทำให้แฟนคลับผิดหวัง เพราะเสิร์ฟการแสดงแบบจัดเต็ม ซึ่งไฮไลต์ที่ทำให้กะรัตต้อง “กรี๊ด” ออกมาดัง ๆ คือการแสดงเพลง “THUNDER” ที่เป็นเพลงไตเติลของอัลบั้ม Happy Burstday ซึ่งโดดเด่นด้วยกลิ่นอายแบบ EDM และจังหวะที่ติดหูตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง
อย่างไรก็ตาม อีเวนต์นี้มีการถ่ายทอดสดบนยูทูบ HYBE LABELS, วีเวิร์ส (Weverse) และ CHZZK ด้วย คาดว่ายอดรับชมรวมจากทุกช่องทางอาจแตะถึงหลักล้าน
ที่สำคัญ “SEVENTEEN” คือศิลปินเคป๊อปวงแรกที่จัดอีเวนต์ในลักษณะนี้ และเชื่อเลยว่าความเป็น SEVENTEEN คงไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะนี่คือวงที่พร้อมจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เหล่าแฟนคลับอีกแน่นอน
