ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ผู้คิดค้นวิธีรักษาโรคเอดส์แบบหายขาด

ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา
พลพัต สาเลยยกานนท์ : เรื่อง

ย้อนกลับไปเมื่อราว 40 ปีก่อนหน้า การแพร่ระบาดของโรคเอดส์ หรือที่เรียกว่าไวรัส HIV/AIDS เกิดขึ้นครั้งแรกในโลกและมีการแพร่ระบาดในวงกว้างสืบต่อเนื่องมา เรียกได้ว่ายังไม่มีการค้นพบการรักษาชนิดที่หายขาดเลย โดยผู้ที่ติดเชื้อดังกล่าวจะต้องกินยาต้านไวรัสไปตลอดชีวิต

ที่ผ่านมาการรักษาโรคเอดส์ ด้วยการให้ผู้ป่วยกินยาต้านไวรัสมีผลกระทบข้างเคียงต่อผู้ป่วยหลายด้าน แต่ด้วยการไม่มีทางเลือกในการรักษาอื่น วิธีการดังกล่าวจึงเป็นเพียงวิธีเดียวที่ใช้รักษาผู้ติดเชื้อไวรัส HIV/AIDS ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย

กระนั้นเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา เนื่องในวันเอดส์โลกได้มีการค้นพบวิธีการรักษาไวรัสดังกล่าวได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในโลกด้วยฝีมือนักวิจัยชาวไทย ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ของผลงานชิ้นนี้

“ดีไลฟ์ ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์พิเศษ ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากสารสกัดธรรมชาติ และหัวหน้าคณะนักวิจัย Operation BIM

ผู้คิดค้นสารสกัดจากพืชในรูปแบบแคปซูลที่ทดลองใช้ในอาสาสมัครผู้ติดเชื้อไวรัส HIV/AIDS จำนวน 3 รายที่เข้าร่วมโครงการเป็นระยะเวลา 1-2 ปี และมีการหยุดใช้ยาต้านไวรัสแล้วตรวจไม่พบเชื้อ นับเป็นผู้ติดเชื้อ 3 รายแรกของโลกที่สามารถหยุดใช้ยาต้านไวรัสได้สำเร็จและยังมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีเป็นปกติ

จุดเริ่มต้นของการวิจัย

ภายหลังสำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศได้กลับมาทำงานที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งในพื้นที่มีปริมาณของ “มังคุด” จำนวนมหาศาล และวันหนึ่งขณะเดินทางไปที่มหาวิทยาลัย ผมสังเกตเห็นกองมังคุดที่เกลื่อนข้างถนนไปหมด ทำให้เกิดไอเดียที่อยากทำให้ waste เป็น wealth

ด้วยสรรพคุณพื้นฐานของมังคุดตามตำราแพทย์โบราณที่ใช้เปลือกมาบดทาแผลทำให้แผลหายและลดการอักเสบ ขณะเดียวกันเมื่อนำเนื้อมังคุดไปต้มกับน้ำจะสามารถรักษาอาการท้องร่วงได้ จึงนำสิ่งที่ร่ำเรียนมาทางวิทยาศาสตร์และข้อสงสัยทำให้เกิดการวิจัยขึ้นมา

เราจึงได้ค้นพบสารสกัดจากเปลือกมังคุดที่มีประสิทธิภาพที่เรียกว่า สาร GM-1 ซึ่งสารตัวนี้มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อดื้อยาทั้งหลายได้ดี

จากนั้นจึงเกิดความตื่นเต้นปนสนุกในการค้นคว้าต่อด้วยการนำไปทดสอบกับเซลล์มะเร็งซึ่งก็ออกฤทธิ์ได้ดีในการฆ่าเซลล์ดังกล่าว นำไปสู่ความหวังในการสร้างมูลค่าจากผลผลิตที่มีมากมายในประเทศไทยแปรเปลี่ยนเป็นการช่วยเพื่อนมนุษย์เป็นเป้าหมายในการวิจัย

“เมื่อครั้งที่ผมทำงานที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีนักการภารโรงผู้ที่ทำความสะอาดห้องแล็บ บอกกับผมเสมอว่า มังคุดเป็นผลไม้พื้นเมืองที่อยู่ในตำราแพทย์โบราณและชาวบ้านใช้ในการรักษาโรคต่าง ๆ มาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งส่วนหนึ่งของงานวิจัยชิ้นนี้ที่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะภูมิปัญญาชาวบ้านที่นักการภารโรงท่านนั้นด้วยเช่นกัน”

ความตั้งใจในการพัฒนางานวิจัย

ส่วนตัวมีเป้าหมายในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในแบบที่เราสามารถทำได้ ซึ่งหมายความว่าทุกคนต้องสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้อย่างทั่วถึง โดยอะไรที่บรรลุเป้าหมายนั้นได้ก็ต้องนำมาเป็นปัจจัยในการพัฒนา ซึ่งวันนี้นำเอาสารสกัดจากพืชที่ผู้คนใช้ในการบริโภคอยู่แล้วมาพัฒนาส่วนผสมบรรจุในรูปแบบแคปซูล

โดยใช้การเสริมฤทธิ์ของพืช 5 ชนิด ได้แก่ มังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และใบบัวบก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสารสกัดมังคุดที่เป็นตัวหลัก ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เซลล์ T พิฆาต หรือ Killer T Cell ไปจัดการกับเชื้อร้ายต่าง ๆ ในร่างกาย

เซลล์ T พิฆาต คืออะไร

เซลล์ T พิฆาต หรือ Killer T Cell คือเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่อยู่ในร่างกายของคนเราทุกคน โดยธรรมชาติของเซลล์ชนิดนี้จะมีหน้าที่ในการจัดการกับเซลล์ที่มีความผิดปกติทั้งหลาย

อาทิ เซลล์ติดเชื้อ, เซลล์มะเร็ง, เซลล์เนื้องอก รวมถึง เซลล์ไวรัส HIV ซึ่งเซลล์ T พิฆาต จะทำหน้าที่ในการเลือกฆ่าเซลล์ที่มีปัญหาความผิดปกติและย่อยสลายออกไปตามปกติของร่างกาย

“เมื่อ 10 ปีก่อน ผมเลี่ยงที่จะทำงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัส HIV เนื่องจากข้อมูลระบุว่า ไวรัส HIV จะไปกัดกินเม็ดเลือดขาว ถ้าจะทำให้หายต้องฆ่าเม็ดเลือดขาว ซึ่งถ้าฆ่าเม็ดเลือดขาวก็เสี่ยงที่จะเกิดการเสียชีวิตก่อนที่จะรักษาสำเร็จ

แต่การค้นพบเซลล์ T พิฆาตที่มีความสามารถในการฆ่าเซลล์ที่ผิดปกติติดเชื้อเพียงอย่างเดียวและไม่ยุ่งกับเซลล์ดี จึงทำให้ผมลงมือทำงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคดังกล่าว”

นอกจากนั้น จากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) มีการพยากรณ์ว่าในปี ค.ศ. 2050 ในโลกนี้จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่ไม่สามารถรักษาได้และจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อดื้อยากว่า 10 ล้านคน

ซึ่งจากผลวิจัยในการค้นพบเซลล์ T พิฆาต ทำให้เชื่อได้ว่าเซลล์ดังกล่าวจะสามารถจัดการกับโรคใด ๆ ด้วยสาเหตุการที่เซลล์ดังกล่าวไปสร้างพื้นฐานของเม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการต่อต้านเชื้อร้ายต่าง ๆ ในร่างกาย

ปัจจัยที่ทำให้เกิดการยอมรับ

การใช้สำหรับการรักษาของโรคใด ๆ ก็ตามจะต้องขึ้นทะเบียนยาหลัก ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งเคสนี้จะคล้ายกับ “ฟ้าทะลายโจร” ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ช่วงแรกเป็นเพียงทางเลือกในการรักษา ยังไม่สามารถบรรจุขึ้นทะเบียนเป็นยาหลักได้

จนเมื่อเวลาผ่านไปมีผลการรักษาและรับรองทางการแพทย์ที่มีผลตอบรับที่ดีในการรักษาจึงได้ขึ้นทะเบียนยาหลักในที่สุดเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง เช่นเดียวกัน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวถูกใช้ในผู้ป่วยโรคร้ายแรง อาทิ มะเร็ง และเอดส์ ซึ่งผลการวิจัยเป็นไปตามที่กล่าวไปข้างต้น

“ผู้ป่วยที่ใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้วได้ผลที่ดี อาจจะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านการรักษาเพื่อนมนุษย์ในวงกว้าง”

อย่างไรก็ตาม เรามีแผนที่จะเปิดศูนย์ให้คำแนะนำการรักษาผ่านระบบ remote monitoring ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเปิดกว้างสำหรับผู้ที่สนใจร่วมมือ อาทิ ศูนย์วิจัยทางการแพทย์ หรือ โรงพยาบาลขนาดใหญ่ เพื่อขยายผลให้ครอบคลุมในอนาคต

กลยุทธ์การรักษาแบบซุนวู

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดดังกล่าวจากสารสกัดพืชกินได้ 5 ชนิด โดยมี GM-1 จากมังคุดเป็นตัวหลัก เปรียบเสมือนการใช้วิธีการรบด้วยยุทธศาสตร์ของซุนวู ที่ไม่ต้องส่งกองกำลังเข้าไปจัดการ

แต่ใช้กองกำลังที่มีนั่นคือ เม็ดเลือดขาว ที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์จำนวน 2-5 หมื่นล้านเม็ด ให้เป็นประโยชน์ด้วย เซลล์ T พิฆาต ทำให้เกิดกองทัพในการต่อต้านเชื้อร้ายได้อย่างมหาศาล

ปัจจุบัน สารสกัดดังกล่าวจากมังคุด ถูกพัฒนาเพื่อใช้ในผู้ป่วย 2 กลุ่มโรคด้วยกันได้แก่ 1.โรคที่เกิดขึ้นจากการมีภูมิคุ้มกันเยอะเกินไป อาทิ รูมาตอยด์ และเบาหวาน

2.โรคที่เกิดขึ้นจากการมีภูมิคุ้มกันน้อยเกินไป อาทิ มะเร็ง เนื้องอก แบคทีเรีย และ HIV เป็นต้น ซึ่งสารดังกล่าวช่วยให้สร้างความสมดุลของเม็ดเลือดขาวในการจัดการเชื้อร้ายต่าง ๆ ในร่างกาย