โรงงานน้ำตาลลั่นไม่ร่วมบริหาร พ.ร.บ.อ้อยฯ ค้านเพิ่มคำนิยาม “กากอ้อย”

อ้อย+น้ำตาล

ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ ยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภา ค้านเพิ่มคำนิยาม “กากอ้อย” เป็นผลพลอยได้ ในร่างแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ชี้เป็นการทำลายโครงสร้างระบบอุตสาหกรรม ย้ำชัดจะไม่เข้าร่วมบริหารกฎหมาย ที่สร้างความขัดแย้งให้แก่ระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ฉุดขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีโลกลดลง

วันที่ 8 สิงหาคม 2565 นายปราโมทย์ วิทยาสุข ประธาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศได้ร่วมกันยื่นหนังสือคัดค้านร่างแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ที่เพิ่ม “กากอ้อย” ในคำนิยาม “ผลพลอยได้” ต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เพื่อแสดงออกถึงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลที่ไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับร่างแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา

โดยหากร่างแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าว ผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมวุฒิสภาและถูกบังคับใช้เป็นกฎหมายนั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งในห่วงโซ่การผลิตของอุตสาหกรรมและกระทบต่อขีดความสามารถการแข่งขันอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย

ทั้งนี้ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ฉบับดังกล่าว ซึ่งผิดหลักนิติธรรม ที่ไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายโรงงานน้ำตาล ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงตามโครงสร้างกฎหมายนี้ เข้าไปมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น จึงขาดผู้เกี่ยวข้องที่จะให้ความเห็นประกอบการพิจารณาในกระบวนการตรากฎหมาย และขัดต่อหลักกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยหลักกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน กระทบสิทธิความเป็นเจ้าของ

โดย “กากอ้อย” ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินและผลประโยชน์ของโรงงานที่เป็นผู้ซื้ออ้อยตามสัญญา และโรงงานต้องลงทุนเป็นจำนวนมากเพื่อกำจัด “กากอ้อย” ที่เป็นของเสียไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อให้เกิดประโยชน์และคุณค่าสูงสุดต่อเศรษฐกิจไทย

“โรงงานน้ำตาลประกาศชัดเจนว่า จะไม่เข้าร่วมบริหารกฎหมายฉบับนี้หากมีการประกาศใช้ เพราะจะสร้างความไม่เป็นธรรม นำไปสูความขัดแย้งและแตกแยกไม่สิ้นสุด ฉุดอุตสาหกรรมให้ถอยหลังไม่ให้เกิดการพัฒนา เป็นกฎหมายที่ผิดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญในหลายมาตรา และยังขัดต่อหลักปรัชญาของ พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาล ฉบับเดิม ที่ต้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หากพืชเกษตรอื่นออกกฎหมายในลักษณะเช่นนี้ จะไม่เกิดการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรต่อเนื่องอย่างแน่นอน”