ขึ้นค่าแรง เงินสะพัด 3 หมื่นล้าน รับมือ กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% วันนี้

ค่าแรง
Photo by Pixabay
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด วันที่ 10 ส.ค. 65

ธนวรรธน์ชี้การประชุม กนง. 10 ส.ค.นี้ ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ขณะที่การขึ้นค่าแรงถือว่าเหมาะสม สอดคล้องกับค่าครองชีพ จะทำให้มีเงินสะพัดทั้งปี 30,000 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจโตเพิ่ม 0.2%

วันที่ 10 สิงหาคม 2565 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การประชุมนโยบายการเงิน หรือ กนง. ในวันที่ 10 สิงหาคม 2565 นี้ คาดว่าที่ประชุมจะมีการปรับอัตราขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.25% ซึ่งถือว่าเป็นการปรับที่ไม่สูงมากนัก และสอดคล้องกับสถานการณ์โดยรวม รวมไปถึงคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ที่ 6.5% ขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าที่ 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่วนจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากนี้อีกกี่ครั้งจะต้องรอประเมินอีกที

ส่วนสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมองว่าเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะบางกลุ่มธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าในไตรมาส 4 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 1-1.5 ล้านคน จะส่งผลให้ทั้งปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 8-10 ล้านคน ส่วนภาพการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวดี โดยอยู่ในกรอบ 5-8% ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจคาดว่าจะอยู่ในกรอบ 3-3.5%

ส่วนกรณีการปรับขึ้นค่าแรง 5-8% มองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและเห็นด้วย แต่ทั้งนี้ยังต้องการให้มีการพูดคุยในกรอบไตรภาคีก่อน เพราะยังเห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว บางธุรกิจเริ่มฟื้น ส่วนบางธุรกิจยังไม่ฟื้น ยังขาดสภาพคล่อง ควรจะหาจุดที่เหมาะสมและก็พร้อมให้ธุรกิจปรับตัวได้


ทั้งนี้ โดยการปรับขึ้นค่าแรงจะมีผลต่อค่าครองชีพ รวมไปถึงมีผลกระทบต่อต้นทุนโดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ใช้แรงงานเยอะ อาจจะทำให้มีต้นทุนเพิ่ม กำไรน้อยลง และอาจส่งผลให้ต้องผลักภาระเป็นค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภค แต่ทั้งนี้ หากมีการปรับค่าแรงขึ้น แรงงานที่จะได้ 5-8 ล้านคน จะทำให้มีเงินสะพัดประมาณ 15,000-24,000 ล้านบาท หรือทั้งปีมีเงินสะพัด 20,000-30,000 ล้านบาท และกระตุ้นเศรษฐกิจให้เพิ่มขึ้นจากเดิม 0.1-0.2%