30 ปีซีเล็คเตรียมส่งทูน่าผสมคอลลาเจนวางตลาด Q4 ดันยอดขายปี’65 โต 5-6%

ซีเล็ค

30 ปี ซีเล็ค (SEALECT) ทูน่า กระป๋องยอดขายอันดับ 1 ของประเทศไทย ในเครือไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ฉลอง 30 ปี ปักธงธุรกิจภายใต้แนวคิด “Healthy Living, Healthy Oceans” เตรียมลอนช์ทูน่าผสมคอลลาเจน ไตรมาส 4 ดันยอดขายปี’65 โต 5-6%

วันที่ 31 สิงหาคม 2565 นายศรัณย์ รัตนรุ่งเรืองชัย ผู้จัดการทั่วไป บริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 30 ปี แบรนด์ซีเล็ค (SEALECT) ว่าปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้น 5-6% โดยในไตรมาส 4 บริษัทเตรียมวางตลาดผลิตใหม่ระดับพรีเมี่ยมเป็นทูน่าเยลโล่ฟินพร้อมปรุงในที่มีส่วนผสมคอลลาเจน เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น

กลยุทธ์ของซีเล็ค ทูน่าต่อจากนี้จะใช้นวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ออกมาใหม่ พร้อมแตกไลน์สินค้าเป็น 4 กลุ่ม อยู่ภายใต้กรอบ 4B คือ Brain-อาหารสมอง, Body-สรีระ, Burn-เผาผลาญ และ Beauty-ผิวพรรณ ความสวยงาม เพื่อส่งเสริมการบริโภคอาหารที่ดี มีประโยชน์ และทานอาหารแทนยา โดยตั้งเป้าจะออกสินค้าใหม่ให้ได้ปีละประมาณ 3-4 รายการสินค้าเป็นอย่างน้อย ซึ่งในปีนี้จะมีทูน่าในน้ำมันมะกอกที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน

ทั้งยังได้พัฒนานวัตกรรมแพ็กเกจจิ้งเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบ 30 ปี ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์แคแร็กเตอร์ 5 ตัวการ์ตูนโดราเอมอน พิมพ์ลายบนกระป๋อง คอลแลบส์ “ซีเล็ค ทูน่า x โดราเอมอน” ซึ่งจัดทำเป็นปีที่ 2 ต่อเนื่องจากปีก่อนที่ได้พิมพ์ 3 ตัวการ์ตูนและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จำหน่ายหมดใน 1.5 เดือน จากเป้าหมาย 3 เดือน และกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้น

ซึ่งในปีนี้จะเริ่มจำหน่าย 1 ก.ย. 65 เป็นต้นไป เป้าหมายระยะเวลา 3 เดือน และการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์รูปแบบถุงเพาช์แทนกระป๋อง ซึ่งจะทำให้สะดวก มีน้ำหนักเบาเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่จะซื้อเพื่อนำไปรับประทานในต่างประเทศ และยังเป็นถุงที่มีส่วนผสมจากไบโอพลาสติกย่อยสลายได้

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ผลิตและส่งออกอันดับหนึ่ง โดยแบรนด์ ซีเล็ค ทูน่า ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในไทยราว 58 % จากมูลค่าตลาดประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือประมาณ 600 ล้านบาท ขณะที่อัตราการเติบโตในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 8% คิดเป็นมูลค่าราว 50 ล้านบาท และคาดว่าจะยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกที่เติบโตแล้ว 5-6%

เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีแนวโน้มใส่ใจสุขภาพ เลือกรับประทานอาหาร เน้นความสะดวกสบาย และต้องการความหลากหลายมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันอัตราการบริโภคปลาทูน่ากระป๋องของคนไทยอยู่ที่เพียง 50 กรัม/คน/ปี เท่านั้น ซึ่งยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับโปรตีนชนิดอื่น ๆ นี่จึงนับเป็นโอกาสและความท้าทายทางการตลาดที่จะต้องเพิ่มอัตราการบริโภคทูน่าเป็น 100 กรัม/คน/ปี ให้ได้ภายในปี 2568

นานศรัณย์ ในช่วงครึ่งปีหลังแม้ว่าจะมีการปรับขึ้นค่าแรงงาน และค่าไฟฟ้าแต่ก็จะไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้าอีก จากในช่วงที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นประมาณ 3% เพราะปัญหาต้นทุนวัตถุดิบ ปรับขึ้น 20% แพ็กเกจจิ้ง ปรับขึ้น 38% และยังมีค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ได้มีการปรับราคาสินค้าปลากระป๋องบางรายการที่จำหน่ายในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ราคาในประเทศ ปรับในสัดส่วนที่น้อยกว่าราคาส่งออก เพราะบริษัทสามารถขยับราคาสินค้าในตลาดต่างประเทศได้ ประมาณ 10% ทั้งนี้ ตลาดส่งออกมีสัดส่วนประมาณ 10% ส่วนตลาดในประเทศมีสัดส่วน 90%

“แนวโน้มทูน่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพของคนไทย และในฐานะผู้นำอันดับ 1 ของธุรกิจทูน่ากระป๋องในประเทศไทย บริษัทมุ่งดำเนินงานแนวคิด Healthy Living, Healthy Oceansของไทยยูเนี่ยน ที่ให้ความสำคัญกับโภชนาการที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล สร้างสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และอนุรักษ์ธรรมชาติของท้องทะเล เพื่อสร้างความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง

และนอกจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เราจะยังคงส่งเสริมด้านกีฬาผ่านสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยต่อเนื่องต่อไป เพื่อร่วมเป็นหนึ่งในการสนับสนุนให้ทีมชาติไทยก้าวไกลสู่ระดับโลกไปด้วยกัน รวมไปถึงการดูแลด้านความยั่งยืน ทั้งด้านการใช้แรงงานที่ถูกกฎหมาย การผลิตและจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ ตลอดจนดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมร่วมกันไป” นายศรัณย์กล่าว

ปัจจุบันซีเล็ค ทูน่า มีผลิตภัณฑ์หลากหลายกว่า 40 รายการสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยกลุ่มสินค้าหลัก เป็นสินค้ากลุ่มทูน่าพร้อมปรุงมีสัดส่วน 75 เปอร์เซ็นต์ คือ ทูน่าในน้ำแร่ ในน้ำเกลือ ในน้ำมัน ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่มราคา กลุ่มราคาประหยัดอยู่กระป๋องละ 35-40 บาท ขณะที่กลุ่มพรีเมี่ยมจะอยู่ที่กระป๋องละ 45-52 บาท และสินค้าอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มทูน่าพร้อมทานมีสัดส่วนอีก 25 เปอร์เซ็นต์

ซึ่งมีสินค้ากลุ่มน้ำพริกทูน่า, แกงเขียวหวาน, น้ำซุปญี่ปุ่น, อาฟเตอร์ยัม, มายองเนส และสเปรดทูน่า ราคาเฉลี่ยกระป๋องละ 35-69 บาท โดยที่ผ่านมาบริษัทพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ออกมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น ซีเล็ค ทูน่า ฟิตต์ โปรตีนสูง ไขมันอิ่มตัว 0 เปอร์เซ็นต์, การขยายไลน์กลุ่มน้ำพริก, การจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ