รัฐบาลผุด one stop service ให้แรงงานกัมพูชา-เมียนมา ขึ้นทะเบียนในไทย แก้ต่างด้าวกลับประเทศ

เปิดศูนย์ one stop service แก้แรงงานขาด

วันที่ 25 กรกฎาคม 2560 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนในช่วงเวลานี้ จากผลกระทบจากการออก พ.ร.ก.บริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ที่ทำให้แรงงานต่างด้าวทยอยกลับประเทศต้นทางนั้น รัฐบาลจึงมีมาตรการให้กระทรวงแรงงานดำเนินการเพิ่มเติม โดยตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.-7 ส.ค.2560 ให้นายจ้างและลูกจ้างเดินทางไปแจ้งข้อมูลความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง โดยนายจ้างแจ้งว่ามีลูกจ้างอยู่กี่คนทำงานในตำแหน่งใดบ้างเพื่อเก็บข้อมูลไว้ ที่สำนักงานจัดหาแรงงานในจังหวัดต่างๆ และใน กทม.11 จุด

ประกอบด้วย 1.กระทรวงแรงงาน 2.ไอทีสแควร์ หลักสี่พลาซ่า ถ.แจ้งวัฒนะ 3.กรมยุทธศึกษาทหารบก ตรงข้ามสถานีรถไฟสามเสน 4.สวนกีฬา รามอินทรา เขตบางเขน 5. ธัญญาพาร์ค เขตสวนหลวง 6.หอประชุม มหาวิทยาลัยกรุงเทพสุวรรณภูมิ เขตลาดกระบัง 7.สถานีขนส่งสายใต้ ชั้น 2 เขตตลิ่งชัน 8.กองความปลอดภัยด้านแรงงาน เขตตลิ่งชัน ตรงข้าม สน.ตลิ่งชัน 9.อาคารสโมสรวังนันทอุทยาน กองทัพเรือ เขตบางกอกน้อย 10.สำเพ็ง 2 พาร์ค เขตบางแค 11.ศูนย์กีฬาบางขุนเทียน เคหะชุมชนธนบุรี 3 ถนนพระราม 2 เขตบางขุนเทียน

กัมพูชา-เมียนมา ไม่ต้องกลับประเทศ

“หลังจากแจ้งเสร็จเรียบร้อย จะมีการเปิดศูนย์ one stop service สำหรับคนกัมพูชา และเมียนมา ที่เข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย เดิมจำเป็นต้องกลับประเทศต้นทาง แต่กระทรวงแรงงานได้เจรจากับประเทศต้นทางให้สามารถส่งเจ้าหน้าที่มาตั้งศูนย์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ไทยในประเทศไทยได้ แรงงานต่างด้าวกัมพูชาและเมียนมาไม่จำเป็นต้องกลับไปยังประเทศต้นทาง ซึ่งศูนย์ดังกล่าวสามารถตรวจสัญชาติ ตรวจดวงตราวีซ่า ตรวจสุขภาพ อนุญาตให้ทำงานได้ในประเทศไทย แต่สำหรับประเทศลาวยังหาข้อตกลงไม่ได้ แรงงานลาวยังต้องกลับไปดำเนินการที่ประเทศต้นทางตามเดิม แต่ทั้งนี้ หากเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และนายจ้างไม่มีการมาแจ้งข้อมูลภายในวันที่ 24 ก.ค.-7 ส.ค. 2560 แม้จะมีศูนย์ one stop service ก็ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะไม่ได้แจ้งความประสงค์เอาไว้ แรงงานต่างด้าวจะต้องกลับไปทำเรื่องที่ประเทศต้นทางตามเดิม อย่างไรก็ตาม ศูนย์ one stop service สำหรับคนกัมพูชา และเมียนมา จะตั้งอยู่จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2561 เท่านั้น” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว