ราคาน้ำตาลหน้าโรงงานขึ้น 1.75 บาท/กก. มีผลวันนี้ ลุ้นขายปลีกปรับตาม

น้ำตาล
Photo : Pixabay

โรงงานน้ำตาลทราย ร่วมชาวไร่อ้อยปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานอีก 1.75 บาท/กก. มีผลวันนี้ (20 ม.ค. 66) ดันราคาน้ำตาลทรายขาวธรรมดาขึ้นเป็น 19 บาท/กก. และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์เป็น 20 บาท/กก. คาดจะประกาศมีผลเร็ว ๆ นี้ เพื่อใช้กำหนดเป็นราคาคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นปี’65/66 ลุ้นปรับราคาขายปลีกตาม

วันที่ 20 มกราคม 2566 แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วานนี้ (19 ม.ค.) โรงงานน้ำตาล ชาวไร่อ้อย และฝ่ายราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปในการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานอีก 1.75 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้ราคาน้ำตาลทรายขาวธรรมดาหน้าโรงงานจากเดิมอยู่ที่ 17.25 บาท/กก. เป็น 19 บาท/กก. และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จาก 18.25 บาท/กก. เป็น 20 บาท/กก. โดยมีผลในวันนี้ (20 ม.ค. 2566) เพื่อใช้กำหนดเป็นราคาคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นในฤดูการผลิตปี 2565/66

ทั้งนี้ การปรับราคาหน้าโรงงานดังกล่าวทางเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้ลงนามประกาศแล้ว โดยอาศัยอำนาจตามความในข้อ 6 (1) ของประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เรื่องการจัดทำงบประมาณรายได้ การกำหนดและการชำระค่าอ้อยและค่าผลผลิตน้ำตาลทรายและอัตราส่วนของผลตอบแทนระหว่างชาวไร่และโรงงาน พ.ศ. 2562

สอน.จึงประกาศราคาน้ำตาลภายในราชอาณาจักร ประจำฤดูการผลิตปี 2565/66 ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ เพื่อใช้ประกอบในการคำนวณราคาอ้อยและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายฤดูการผลิตปี 2565/66

“การขึ้นราคาหน้าโรงงานครั้งนี้ฝ่ายโรงงานจะประกาศโดยแจ้งต่อผู้ซื้อ ส่วนราคาขายปลีกก็จะปรับเปลี่ยนตามไป แต่จะมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่ว่าโรงงานแต่ละแห่งจะมีการตัดราคาหรือดัมพ์ราคาขายกันหรือไม่ด้วย เพราะหากดูราคาขายปลีกปัจจุบันอยู่ที่ 24-25 บาท/กก. ถือว่าค่อนข้างสูง ท่ามกลางแรงซื้อที่ไม่ได้เติบโตมากนัก”

สำหรับราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานที่ปรับขึ้น เป็นไปตามข้อเรียกร้องของฝ่ายชาวไร่อ้อย ที่เห็นว่าต้นทุนการเพาะปลูก และผลิตได้สูงขึ้นมาก จากทั้งค่าปุ๋ย ค่าแรง น้ำมัน ฯลฯ ท่ามกลางราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกที่จะนำมาคำนวณยังทรงตัวในระดับเดิม เฉลี่ย 19 เซนต์ต่อปอนด์ ทำให้ราคาอ้อยขั้นต้นไม่สูงมากนัก ประกอบกับที่ผ่านมาราคาขายปลีกที่แท้จริงได้ปรับตัวสูงไปมากแล้ว ทำให้ชาวไร่เสียเปรียบในจุดนี้ จึงได้นำราคาจริงมาเฉลี่ยเพื่อปรับราคาหน้าโรงงานให้สะท้อนข้อเท็จจริงตามระบบ Cost Plus

อย่างไรก็ตาม การกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2565/2566 นั้น ทาง กอน.จะต้องหารือว่าจะนำผลของราคาหน้าโรงงานที่ปรับขึ้นมาคำนวณเป็นราคาอ้อยขั้นต้น หรือจะเป็นขั้นสุดท้ายปี 2565/2566 อีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้โรงงาน 57 แห่งที่อยู่ระหว่างการเปิดหีบได้มีการทดลองจ่ายค่าอ้อยบางส่วนไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ราคาหน้าโรงานน้ำตาลที่ปรับขึ้นจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะนำมาคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นให้เพิ่มขึ้น แต่ยังต้องดูองค์ประกอบการอื่น ๆ อีกด้วย

“ชาวไร่อ้อยเองคาดหวังว่าราคาอ้อยขั้นต้นในฤดูผลิตปี’65/66 อยากเห็นเฉลี่ยทั่วประเทศ 1,100 บาท/ตัน ที่ความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. เพราะนั่นจะเป็นราคาที่พอจะคุ้มทุนอยู่บ้าง หลังจากที่ค่าใช้จ่ายทุกอย่างแพงหมด” แหล่งข่าวกล่าว

ปัจจุบันการเปิดหีบอ้อย 57 โรงงานที่ทยอยตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2565 ล่าสุดปริมาณอ้อยรวมเข้าหีบต่อวันเฉลี่ย 1.17 ล้านตัน ความหวานเฉลี่ย 12.59 ซี.ซี.เอส. ส่งผลให้อ้อยเข้าหีบรวมล่าสุดอยู่ประมาณ 35 ล้านตัน คิดเป็น 34% ของอ้อยเข้าหีบ ปี’65/66 โดยพบว่าผลผลิตตันต่อไร่ มีความสมบูรณ์มากกว่าปี’64/65 คาดการณ์ปริมาณอ้อยรวมปี’65/66 ปิดหีบอ้อยที่ 100-105 ล้านตัน โดยคาดว่าโรงงานน้ำตาลส่วนใหญ่จะปิดหีบช่วง 20-31 มี.ค. 2566 และอาจมีโรงงานน้ำตาล 5-10 แห่ง ปิดก่อนสงกรานต์

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจห้างค้าปลีกย่านเตาปูน พบว่า ภายหลังการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานอีก 1.75 บาท/กก. ของโรงงานน้ำตาลทราย และชาวไร่อ้อย ซึ่งแม้ยังไม่มีประกาศออกมา แต่ทางห้างได้เริ่มจำกัดจำนวนการซื้อขายน้ำตาลทรายเอาไว้ที่ไม่เกิน 6 ถุง ต่อ 1 ใบเสร็จ