กรมการค้าต่างประเทศยืนยันการทบทวนมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) ในสินค้าเหล็ก จากเวียดนาม บราซิล อิหร่าน และตุรกี เป็นไปตามหลักกฎหมาย คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายและผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) มีหลักการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด
- BITE SIZE : ขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด-ปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มขึ้นเท่าไร
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ใช้จ่ายผ่านโมบายแบงกิ้ง ดึงแอป “ทางรัฐ” เชื่อมหลังบ้าน
เพื่อประโยชน์ของอุตสาหกรรมภายใน ผู้บริโภค และประโยชน์สาธารณะตาม พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดฯ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ซึ่งกระบวนการพิจารณามาตรการ ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนภายใต้ พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดฯ
โดยในส่วนของการทบทวนเพื่อต่ออายุมาตรการ ตามมาตรา 57 มีหลักเกณฑ์พิจารณาข้อมูลที่เป็นจริง 5 ข้อ ดังนี้
1.ราคาที่แสดงการทุ่มตลาด (ราคาส่งออกมาไทยต่ำกว่าราคาที่ขายในประเทศที่ถูกกล่าวหา)
2.ความเสียหายที่เกิดกับอุตสาหกรรมภายใน ได้แก่ ปริมาณการนำเข้า ผลกระทบด้านราคา (เช่น การตัดราคา กดราคา และยับยั้งการขึ้นราคา)
3.ผลกระทบที่เกิดแก่อุตสาหกรรมภายใน 15 ปัจจัย เช่น กำไร/ขาดทุน ผลผลิต ปริมาณขายในประเทศ ส่วนแบ่งตลาด อัตราการเจริญเติบโต เป็นต้น
4.ศักยภาพในการผลิตและโอกาสการส่งออกของประเทศที่ถูกกล่าวหามายังประเทศไทย
5.ผลกระทบที่อาจเกิดต่อส่วนภาคอื่น ๆ เช่น ภาคการผลิต ภาคบริการ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ต้องใช้เหล็กเป็นต้นทุนการผลิต
ซึ่งส่งผ่านไปยังอัตราค่าครองชีพของผู้บริโภคภายในประเทศ โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมและวิเคราะห์เพื่อประกอบการประเมินความเป็นไปได้ในการทุ่มตลาด และความเสียหายต่ออุตสาหกรรมภายในว่าจะเกิดขึ้นต่อไปหรือฟื้นคืนกลับมาอีก รวมทั้งต้นทุนต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ
คณะกรรมการ ทตอ. ประกอบไปด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ และผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่าง ๆ อาทิ เศรษฐศาสตร์ บัญชี นิติศาสตร์ และการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมีความเป็นอิสระในการพิจารณาและตัดสินใจ จนได้ผลการวินิจฉัยอันเป็นมติของคณะกรรมการ ทตอ. ทั้งคณะ โดยไม่ใช่อำนาจการตัดสินใจของกระทรวงพาณิชย์หรือ/โดยกรมการค้าต่างประเทศหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
กรณีหากผลการทบทวน ตามมาตรา 57 ของ พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดฯ ปรากฏว่าให้ยุติมาตรการ กรมได้กำหนดแนวทางใหม่ที่จะดำเนินการ 2 แนวทาง คือ 1) แจ้งด่วนต่อผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อตักเตือนไม่ให้มีพฤติกรรมการทุ่มตลาดมายังประเทศไทยอีก 2) กรมจะเฝ้าติดตามการนำเข้าสินค้าจากประเทศต้นทาง หากมีพฤติกรรมที่ส่อแนวโน้มการทุ่มตลาดมายังประเทศไทย
กรมจะดำเนินการเปิดไต่สวนการทุ่มตลาดทันทีหากภาคเอกชนมีความล่าช้าในการยื่นคำขอเปิดไต่สวน และจะเร่งกระบวนการไต่สวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อการใช้มาตรการให้ทันท่วงที
ยิ่งกว่านั้นกรมจะขึ้นบัญชีดำว่าประเทศผู้ส่งออกดังกล่าวมีพฤติกรรมการทุ่มตลาดกลับมาอีกเป็นรอบที่สอง เพื่อนำบัญชีดำนี้มาใช้เป็นฐานข้อมูลสำคัญในการพิจารณาทบทวนมาตรการของคณะกรรมการ ทตอ. เมื่อการใช้มาตรการผ่านพ้นกรอบเวลาที่กำหนด
ขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่า การไต่สวนการทุ่มตลาดและทบทวนต่ออายุมาตรการของคณะกรรมการ ทตอ. อยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย มีความเป็นธรรมและตรงไปตรงมา เพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศ คำนึงถึงความสมดุลของกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านการค้าและการผลิต
ทั้งอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยกรมการค้าต่างประเทศพร้อมรับฟังและหารือร่วมกับทุกฝ่าย และรายงานต่อคณะอนุกรรมการพิจารณาการไต่สวน และคณะกรรมการ ทตอ. เพื่อพิจารณาว่าจะใช้มาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดหรือไม่ อันเกิดประโยชน์เที่ยงธรรมต่อทุกภาคธุรกิจให้อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนในระบบเศรษฐกิจ