พาณิชย์ ยันทบทวน AD เหล็กจากเวียดนาม บราซิล อิหร่าน ตุรกี โปร่งใส

สินค้าเหล็ก

กรมการค้าต่างประเทศยืนยันการทบทวนมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) ในสินค้าเหล็ก จากเวียดนาม บราซิล อิหร่าน และตุรกี เป็นไปตามหลักกฎหมาย คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายและผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) มีหลักการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด

เพื่อประโยชน์ของอุตสาหกรรมภายใน ผู้บริโภค และประโยชน์สาธารณะตาม พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดฯ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ซึ่งกระบวนการพิจารณามาตรการ ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนภายใต้ พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดฯ

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

โดยในส่วนของการทบทวนเพื่อต่ออายุมาตรการ ตามมาตรา 57 มีหลักเกณฑ์พิจารณาข้อมูลที่เป็นจริง 5 ข้อ ดังนี้

1.ราคาที่แสดงการทุ่มตลาด (ราคาส่งออกมาไทยต่ำกว่าราคาที่ขายในประเทศที่ถูกกล่าวหา)

2.ความเสียหายที่เกิดกับอุตสาหกรรมภายใน ได้แก่ ปริมาณการนำเข้า ผลกระทบด้านราคา (เช่น การตัดราคา กดราคา และยับยั้งการขึ้นราคา)

3.ผลกระทบที่เกิดแก่อุตสาหกรรมภายใน 15 ปัจจัย เช่น กำไร/ขาดทุน ผลผลิต ปริมาณขายในประเทศ ส่วนแบ่งตลาด อัตราการเจริญเติบโต เป็นต้น

4.ศักยภาพในการผลิตและโอกาสการส่งออกของประเทศที่ถูกกล่าวหามายังประเทศไทย

5.ผลกระทบที่อาจเกิดต่อส่วนภาคอื่น ๆ เช่น ภาคการผลิต ภาคบริการ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ต้องใช้เหล็กเป็นต้นทุนการผลิต

ซึ่งส่งผ่านไปยังอัตราค่าครองชีพของผู้บริโภคภายในประเทศ โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมและวิเคราะห์เพื่อประกอบการประเมินความเป็นไปได้ในการทุ่มตลาด และความเสียหายต่ออุตสาหกรรมภายในว่าจะเกิดขึ้นต่อไปหรือฟื้นคืนกลับมาอีก รวมทั้งต้นทุนต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ

คณะกรรมการ ทตอ. ประกอบไปด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ และผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่าง ๆ อาทิ เศรษฐศาสตร์ บัญชี นิติศาสตร์ และการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมีความเป็นอิสระในการพิจารณาและตัดสินใจ จนได้ผลการวินิจฉัยอันเป็นมติของคณะกรรมการ ทตอ. ทั้งคณะ โดยไม่ใช่อำนาจการตัดสินใจของกระทรวงพาณิชย์หรือ/โดยกรมการค้าต่างประเทศหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง

กรณีหากผลการทบทวน ตามมาตรา 57 ของ พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดฯ ปรากฏว่าให้ยุติมาตรการ กรมได้กำหนดแนวทางใหม่ที่จะดำเนินการ 2 แนวทาง คือ 1) แจ้งด่วนต่อผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อตักเตือนไม่ให้มีพฤติกรรมการทุ่มตลาดมายังประเทศไทยอีก 2) กรมจะเฝ้าติดตามการนำเข้าสินค้าจากประเทศต้นทาง หากมีพฤติกรรมที่ส่อแนวโน้มการทุ่มตลาดมายังประเทศไทย

กรมจะดำเนินการเปิดไต่สวนการทุ่มตลาดทันทีหากภาคเอกชนมีความล่าช้าในการยื่นคำขอเปิดไต่สวน และจะเร่งกระบวนการไต่สวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อการใช้มาตรการให้ทันท่วงที

ยิ่งกว่านั้นกรมจะขึ้นบัญชีดำว่าประเทศผู้ส่งออกดังกล่าวมีพฤติกรรมการทุ่มตลาดกลับมาอีกเป็นรอบที่สอง เพื่อนำบัญชีดำนี้มาใช้เป็นฐานข้อมูลสำคัญในการพิจารณาทบทวนมาตรการของคณะกรรมการ ทตอ. เมื่อการใช้มาตรการผ่านพ้นกรอบเวลาที่กำหนด

ขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่า การไต่สวนการทุ่มตลาดและทบทวนต่ออายุมาตรการของคณะกรรมการ ทตอ. อยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย มีความเป็นธรรมและตรงไปตรงมา เพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศ คำนึงถึงความสมดุลของกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านการค้าและการผลิต

ทั้งอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยกรมการค้าต่างประเทศพร้อมรับฟังและหารือร่วมกับทุกฝ่าย และรายงานต่อคณะอนุกรรมการพิจารณาการไต่สวน และคณะกรรมการ ทตอ. เพื่อพิจารณาว่าจะใช้มาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดหรือไม่ อันเกิดประโยชน์เที่ยงธรรมต่อทุกภาคธุรกิจให้อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนในระบบเศรษฐกิจ