พาณิชย์ ดันเอสเอ็มอี ลุ้น PM’s Export Award 2023 ยกระดับส่งออกสินค้า

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

พาณิชย์  ดันเอสเอ็มอี เข้าลุ้น PM’s Export Award 2023 หนุนสิทธิประโยชน์ ยกระดับสู่การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ

วันที่ 13 มีนาคม 2566 นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ก้าวสู่การเป็นผู้ส่งออกที่มีศักยภาพ กรมชวนผู้ประกอบการสมัครรางวัล Prime Minister’s Export Award 2023

ภายใต้แนวคิด “Better Vision Brighter Future : เปิดมุมมองใหม่ ขับเคลื่อนธุรกิจไทย มุ่งสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคต อย่างเต็มภาคภูมิ” ยกระดับรางวัลขานรับเศรษฐกิจยุคใหม่ เพื่อเป็นการต้อนรับการก้าวสู่ทศวรรษใหม่ ปีที่ 31

โดยครั้งนี้ได้มีการทบทวนหลักเกณฑ์เพื่อยกระดับรางวัลให้สอดรับต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก และแนวทางการพัฒนาภาคการส่งออกไทย โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเปลี่ยนจากภาคการผลิตสินค้ามาสู่ภาคบริการมากขึ้น

โดยนำแนวคิดเรื่องนวัตกรรมและการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน (Environmental, Social and Governance : ESG) มาเพิ่มเป็นน้ำหนักคะแนนของเกณฑ์การตัดสินแต่ละสาขารางวัล

ประเด็นเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจของประเทศ รางวัล PM’s Export Award 2023 โดยตลอดระยะเวลาการดำเนินงานกว่า 30 ปี มีผู้ได้รับรางวัลแล้วรวมจำนวนทั้งสิ้น 784 รางวัล จาก 257 บริษัท ในปีที่ผ่านมา

สำหรับ PM’s Export Award 2023 แบ่งออกเป็น 7 ประเภทสาขารางวัล ประกอบด้วย

1.รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม Best Exporter

2.รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม Best Thai Brand โดยจำแนกระดับและประเภทแบรนด์ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่  2.1 ระดับ Existing Brand แบรนด์ที่มีมายาวนาน แบ่งเป็น Corporate Brand และ Product Brand 2.2 ระดับ Emerging Brand แบรนด์ที่เกิดใหม่ที่มีการจดทะเบียนนิติบุคคล และจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ในช่วง 1-4 ปี

3.รางวัลธุรกิจ BCG ส่งออกยอดเยี่ยม Best BCG Exporter ซึ่งเป็นการปรับจากรางวัลสินค้าส่งเสริมนวัตกรรมยอดเยี่ยม (Best Innovation) เพื่อให้สอดคล้องกับวาระแห่งชาติในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ Bio Circular-Green Economy Model หรือ BCG 4.รางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) โดยมีการเพิ่มกลุ่มผลงานการออกแบบระบบ บริการและแพลตฟอร์มดิจิทัล

5.รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise) แบ่งออกเป็น 4 สาขา ประกอบด้วย

– สาขาโรงพยาบาล/ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง/คลินิกเฉพาะทาง (Health & Wellness) (เพิ่มจาก 1 สาขารางวัลเป็น 2 สาขารางวัล)

– สาขาดิจิทัลคอนเทนต์และซอฟต์แวร์ (Digital Content & Software)

– สาขาโลจิสติกส์การค้า (ELMA)

– สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (Printing and Packaging) (เพิ่มเป็น 2 สาขารางวัล)

6.รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP) ซึ่งปีนี้มีการเพิ่มกลุ่มรางวัล เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 6.1 กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP ที่มีการส่งออกด้วยตนเอง (BEST OTOP) 6.2 กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP ที่ยังไม่เคยส่งออกด้วยตนเอง แต่มีศักยภาพในการส่งออก (OTOP New Face Exporter) 7.รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal)

นอกจากนี้ กรมได้พัฒนาและยกระดับรางวัล Prime Minister’s Export Award ให้สอดรับกับเศรษฐกิจยุคใหม่ ใน 5 มิติ ได้แก่

เทคโนโลยีและนวัตกรรม (Innovation & Technology), การออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ (Design & Creativity), การสร้างแบรนด์และการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Branding & Value Creation), การพัฒนาตามแนวคิดเศรษฐกิจ BCG (BCG Model) และมีเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals (SDGs))

สำหรับสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล PM’s Export Award จะได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่าง ๆ ของกรมและพันธมิตร รวมทั้งจะได้รับการสนับสนุนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้ส่งออกในรูปแบบการเข้าร่วมสัมมนา การฝึกอบรมเชิงลึก

รวมทั้งจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการประชาสัมพันธ์ และสามารถใช้ตราสัญลักษณ์ PM’s Export Award เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อส่งเสริมการขาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการในสาขาต่าง ๆ ที่สนใจเข้าร่วมสมัครรับคัดเลือกรางวัล สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้-31 มีนาคม 2566 ที่ pmaward.ditp.go.th หรือ โทร.สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2136-5226, 0-2507-8290 (ในวันและเวลาราชการ)

PM’s Export Award 2023

PM’s Export Award 2023