กรมการค้าภายใน ชี้ตั้งแต่เมษายน 2556 ราคาปุ๋ยเคมี ลดลงต่อเนื่อง โดยวัตถุดิบลด 40% ต้นทุนนำเข้าลด 40% ราคาขายปลีกลด 40% ขณะที่ช่วงสงกรานต์ ห้างจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า
วันที่ 7 เมษายน 2566 ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สถานการณ์ปุ๋ยเคมีขณะนี้ ได้มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปุ๋ยลดลงทั้งระบบ 40-40-40 ซึ่งไม่ใช่สูตรใหม่ แต่เป็นตัวเลขการปรับลดลงในส่วนของราคาก๊าซธรรมชาติ ที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ย ลดลงแล้ว 40% จากช่วงที่เคยขึ้นไปสูงสุดเมื่อปีที่แล้ว และต้นทุนนำเข้าปุ๋ย ก็ลดลงมาแล้ว 40% รวมถึงราคาขายปลีกในประเทศ ที่ปรับลดลง 40% ซึ่งเป็นผลดีต่อเกษตรกร ที่จะลดต้นทุนปุ๋ยเคมีลงมาได้
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ราคาทองวันนี้ (24 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ 41,100 บาท
- การบินไทย คอนเฟิร์ม! ขายแล้ว “แอร์บัส A380” ยกลอต 6 ลำ
“กรมได้ติดตามสถานการณ์ราคาปุ๋ย ทั้งราคาตลาดโลก ราคานำเข้า พบว่า ต้นทุนโดยรวมปรับลดลง ราคาจำหน่ายปุ๋ยในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ ต้องมีแต่ลงกับลง ซึ่งกรมจะมีการติดตามและผลักดันให้โรงงาน ผู้จำหน่าย ปรับลดราคาลงให้สอดคล้องกับต้นทุนต่อไป หากมีการขึ้นราคา เกษตรกรให้ตั้งข้อสงสัยได้ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ และสามารถร้องเข้ามาที่ 1569 ได้ทันที”
ส่วนการลดต้นทุนให้กับเกษตรกร กรมยังเดินหน้าโครงการ “จับคู่ปุ๋ย ซื้อตรง ถูกเงิน ถูกใจ” เพื่อให้มีการสั่งซื้อปุ๋ยกันโดยตรงจากโรงงานในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด โดยร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร และโรงงานผู้ผลิต ผู้นำเข้าปุ๋ย 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร และสมาคมธุรกิจปุ๋ยอินทรีย์และชีวภาพไทย
ส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์ วิสาหกิจขุมชน กลุ่มแปลงใหญ่ หรือกลุ่มอื่น ๆ รวมตัวกันสั่งซื้อปุ๋ยตรงจากโรงงาน ซึ่งเป็นช่องทางที่จะช่วยให้พี่น้องเกษตรกรได้เข้าถึงปุ๋ยในราคาที่ประหยัดขึ้น
ทั้งนี้ กรมจะติดตามคุมเข้ม การจำหน่ายปุ๋ยต่อไป เนื่องจากต้นทุนนำเข้าปุ๋ยลดลง ราคาจำหน่ายก็ต้องลดลงด้วย ห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุอันสมควร ดังนั้น หากพี่น้องเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรม เช่น พบการฉวยโอกาสขึ้นราคาปุ๋ยทั้งที่ต้นทุนลดลง ปฏิเสธการจำหน่ายทั้งที่ยังมีของอยู่
สามารถแจ้งหรือร้องเรียนที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปจัดการโดยเด็ดขาด การจำหน่ายสินค้าในราคาสูงเกินสมควร หรือการกักตุนสินค้า มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ร้อยตรีจักรากล่าวอีกว่า กรมยังได้สำรวจสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่ง พบว่า การจำหน่ายเป็นไปอย่างคึกคัก ห้างมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะสินค้าบรรเทาความร้อน เช่น ปืนฉีดน้ำ สระน้ำ ห่วงยาง เครื่องปรับอากาศ พัดลม ครีมกันแดด ครีมอาบน้ำ และยังมีการลดราคาเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น กระทะไฟฟ้า หม้อต้ม เตาปิ้งยางด้วย เพื่อรองรับเทศกาลสงกรานต์ที่คนจะมีการกินเลี้ยงสังสรรค์กัน