PEA เปิดใช้งานเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าพิกัดสูงที่สุดในประเทศไทย (EV Super Charge) ขนาด 360 kW แหลมบาลีฮาย พัทยา ขยายบริการให้ตอบรับ ความต้องการผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่มากขึ้น ตั้งเป้า ปี 2566 เปิดอีก 150 แห่ง ครอบคลุม 74 จังหวัด
วันที่ 11 เมษายน 2566 นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เป็นประธาน ในพิธีเปิดการใช้งาน “เครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าพิกัดสูงที่สุดในประเทศไทย (EV Super Charge) ขนาด 360 kW” โดยมี นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่น เดลิเวอรี่ นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา ผู้บริหารและพนักงาน PEA ร่วมพิธี ณ สถานี PEA VOLTA บริเวณ 7-Eleven ท่าเรือแหลมบาลีฮาย อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง ตามแนวคิด “ครอบคลุมทั่วไทย ชาร์จมั่นใจทุกเส้นทาง”
ทั้งนี้ ในปี 2566 PEA จะเปิดให้บริการเพิ่มอีก 150 แห่ง รวมเป็น 313 แห่ง ครบ 74 จังหวัดทั่วประเทศ จากที่ผ่านมา PEA เปิดให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าจำนวน 163 สถานี บริเวณถนนสายหลัก 64 จังหวัด และเพื่อครอบคลุมพื้นที่การบริการที่มากขึ้นและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับในวันนี้ PEA เปิดบริการเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าพิกัดสูง (EV Super Charge) ขนาด 360 kW ซึ่งเป็นเครื่องอัดประจุพิกัดสูงที่สุดในประเทศไทย (Super Charge) เพื่อตอบสนองความต้องการของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่มีสมรรถนะที่สูงขึ้นและสามารถรองรับการอัดประจุไฟฟ้าด้วยพิกัดกำลังไฟฟ้าสูง ระยะเวลาอัดประจุลดลง
นอกจากนี้ PEA พัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการที่ต้องการให้บริการอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า เช่น เครื่องอัดประจุ VOLTA DC25, Pupaplug ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการให้บริการได้อย่างครอบคลุม และ PEA VOLTA Platform สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการมีเครื่องอัดประจุให้บริการผ่าน Platform ดังกล่าว
PEA ตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าที่มีการใช้พลังงานในการขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย รวมถึงการพัฒนาและยกระดับ การให้บริการเพื่อมุ่งสู่องค์กรดิจิทัล สอดคล้องกับกระแส Carbon Neutrality หรือความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยมีแนวทางการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต้นทางและการชดเชยคาร์บอนเครดิต