กองทุนน้ำมันฯ จับตาอานิสงส์เฟดขึ้นดอกเบี้ย-น้ำมันลด 3 พ.ค. 66 เตรียมปรับแนวทางดูแลราคาขายปลีกดีเซลในประเทศ รอลุ้นนโยบายพลังงานหลังรัฐบาลใหม่
วันที่ 26 เมษายน 2566 นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า กองทุนอยู่ระหว่างติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 2 พ.ค. 2566 ซึ่งหลายสำนักคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% ต่อปี ส่งผลให้เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลง
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- กรมอุตุฯเตือน รับมือฝนตกหนักอีกรอบ 17-19 พ.ค.นี้ หนักสุดถึง 70% ของพื้นที่
รวมทั้งกำลังการผลิตของสมาชิกประเทศผู้ผลิตน้ำมันโลก (โอเปกพลัส) ที่ประกาศลดกำลังการผลิตในเดือนพ.ค.นี้ ตามภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ขณะที่เศรษฐกิจจีนขยายตัว เป็นปัจจัยที่คณะกรรมการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) จะนำมาประกอบการพิจารณาแนวทางดูแลราคาขายปลีกดีเซลในประเทศ ที่จะมีการประชุมวันที่ 3 พ.ค. 2566 ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาดีเซลมีแนวโน้มลดลง
“กองทุนมีสภาพคล่องดีขึ้น หลังสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มคลี่คลาย และมีการเปิดประเทศ ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลและเบนซินในประเทศมีการปรับลดลงไปในระดับหนึ่ง และมีโอกาสที่จะลดลงได้อีก เพื่อบรรเทาค่าครองชีพของประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกเป็นหลัก”
โดยผลการดำเนินงานของกองทุนช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค. 2565-มี.ค. 2566) อยู่ในเกณฑ์ดี เห็นได้จากฐานะเงินกองทุนติดลบน้อยลงจากช่วงที่เคยติดลบสูงสุดเมื่อเดือน พ.ย. 2565 ที่ 130,671 ล้านบาท เหลือติดลบ 85,586 ล้านบาท ณ วันที่ 23 เม.ย. 2566 แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันติดลบ 38,749 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ติดลบ 46,837 ล้านบาท
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สกนช. กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการกู้ยืมเงินเสริมสภาพคล่องของกองทุน ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วงเงิน 150,000 ล้านบาท โดยบรรจุเป็นหนี้สาธารณะ 110,000 ล้านบาท ปัจจุบัน สกนช.ทำการกู้ยืมไปแล้ว 30,000 ล้านบาท เมื่อเดือน พ.ย. 2565 และเดือน เม.ย.กู้อีกวงเงิน 20,000 ล้านบาท ขณะนี้เงินเริ่มเข้ามาแล้ว และในเดือน พ.ค.เตรียมกู้อีก 20,000 ล้านบาท
สำหรับกรณีที่พรรคการเมืองเสนอปรับลดราคาดีเซล โดยเฉพาะบางพรรคการเมืองที่ประกาศนโยบายลดดีเซลลงเหลือ 28 บาทต่อลิตรนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าดำเนินการด้วยวิธีใด ซึ่งเบื้องต้นอาจเป็นการถอดภาษีและยกเว้นการเก็บเงินเข้ากองทุนหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็จะกระทบต่อรายได้กองทุน ที่ยังคงมีภาระหนี้ ที่ต้องพิจารณาตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกเป็นหลักด้วย
ทั้งนี้ สกนช.ได้ทำแบบจำลองนโยบายด้านพลังงานของพรรคการเมืองต่อการปรับราคาดีเซล 3 แนวทาง คือ 1.ไม่ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือด้านภาษีและการอุดหนุนต่าง ๆ ส่งผลให้ราคาน้ำมันกลับไปสู่ราคาปกติที่สะท้อนต้นทุนจริง สกนช.อาจใช้แนวทางการเก็บเงินเข้ากองทุนเข้ามาอุดหนุนแทน จากปัจจุบันมีการยกเว้นภาษีดีเซลประมาณ 5 บาท/ลิตร และเก็บเงินเข้ากองทุนในส่วนของดีเซล 5.74 บาท/ลิตร
2.การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตดีเซลแบบขั้นบันได และ 3.ลดภาษีสรรพสามิตดีเซลเหมือนเดิม เพื่อคงราคาขายปลีกดีเซลไว้ในระดับปัจจุบัน 32.94 บาท/ลิตร
“ถ้าได้คนเก่ากลับเข้ามาเป็นรัฐบาลใหม่ ก็จะทราบดีอยู่แล้วว่าบทบาทของกองทุนเป็นอย่างไร ต้องทำอย่างไร ได้แค่ไหน แต่ถ้าได้คนใหม่เข้ามาบริหารประเทศก็จะต้องมาหารือและทำความเข้าใจบทบาทกันใหม่อีกครั้ง ว่ากองทุนมีกลไกตามบทบาทและหน้าที่ทำได้แค่ไหนภายใต้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562”
