
CPF กอดรายได้ Q1/66 กว่า 1.43 แสนล้าน โต 4% ฝ่าปัจจัยเสี่ยงต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ กากถั่วเหลือง-ข้าวโพด เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ราคาหมูมนภูมิภาคดิ่งฉุดกำไรหาย
วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2566 มีรายได้จากการขาย 143,781 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นส่วนของกิจการต่างประเทศ 61% และกิจการประเทศไทย 39%
- หวั่น EV ไทย…ซ้ำรอยจีน
- “ทรู-ดีแทค” ถล่มโปร “คืนค่าเครื่อง” ย้ำรวมกันได้มากกว่า
- เปิด “ผังน้ำ” ประกบผังเมือง เขย่าราคาที่ดินทั่วประเทศ
โดยรายได้จากการขายของกิจการประเทศไทยเพิ่มขึ้น 9% และรายได้จากการขายของกิจการต่างประเทศใกล้เคียงเดิม ด้วยต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น ประกอบกับราคาสุกรในภูมิภาคที่อยู่ในระดับต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิในส่วนของบริษัทจำนวน 2,725 ล้านบาท
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวถึง ผลการดำเนินงานว่า ไตรมาส 1 ปีนี้ บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายโดยเฉพาะกิจการในต่างประเทศ จากการที่ต้นทุนการผลิตเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ในหลายประเทศ เช่น ราคากากถั่วเหลืองและข้าวโพดที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% จากปีก่อน รวมถึงค่าใช้จ่ายพลังงานและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น
ประกอบกับราคาเนื้อสัตว์ในหลายประเทศลดลงจากสภาวะอุปสงค์อุปทานที่ไม่สมดุล เป็นผลจากกำลังซื้อในหลายประเทศยังไม่เป็นไปตามที่คาด ทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทลดลงจากปีที่ผ่านมา รวมทั้งส่วนได้ในกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าของบริษัทมีผลขาดทุนเพิ่มขึ้น จากบริษัทร่วมในประเทศจีนที่ดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์และฟาร์มสุกรที่มีต้นทุนการผลิตสุกรสูงขึ้น และการที่ระดับอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีภาระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายจากเงินกู้เพิ่มขึ้น
บริษัทได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้ความสำคัญในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง และคาดว่า ความต้องการบริโภคที่น่าจะดีขึ้นตามลำดับตามภาวะเศรษฐกิจ จะสร้างความสมดุลของภาวะอุปสงค์อุปทานในการบริโภคเนื้อสัตว์ ที่คาดว่าจะสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทดีขึ้นในครึ่งปีหลังของปีนี้