หอการค้าหารือ พิธา ไร้ข้อสรุปค่าแรง 450 บาท ตั้งคณะเจรจาต่อ

สนั่น หารือ พิธา

สนั่น หารือ พิธา ยังไร้ข้อสรุปประเด็นค่าแรง 450 บาทต่อวัน พร้อมจัดให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมหารือ หวังหาทางออกที่ชัดเจน ขณะที่หอการค้าเร่งให้มีการจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว แก้ปัญหาพลังงาน ช่วยเหลือเกษตร เอสเอ็มอี ด้านพรรคก้าวไกลเตรียมเดินสายหารือเอกชนจันทร์นี้ พบผู้ว่าฯกรุงเทพฯ

วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และคณะผู้บริหารพรรคก้าวไกล ว่าการประชุมหารือในครั้งนี้ ได้มีการพูดคุยในหลายประเด็น

โดยเฉพาะประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทต่อวัน โดยข้อมูลทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นที่ต่างกันแต่ไม่มาก เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรง แต่อัตราการขึ้นค่าแรง ควรดูระยะเวลาและความเหมาะสม โดยอาจจะต้องมีการหารือในรายละเอียดอีกครั้ง

นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝั่งยังมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อติดตามความคืบหน้าในทุกประเด็นที่มีการหารือ ซึ่งจะมีนัดหารือกันในครั้งต่อไป โดยเฉพาะประเด็นค่าแรง ส่วนประเด็นเร่งด่วนหลังหารือ นอกจากประเด็นนี้ก็ยังมีเรื่องของพลังงาน การดูแลภาคเกษตร และการต่อลมหายใจให้กับเอสเอ็มอี เพื่อให้ทุกฝ่ายยังคงเดินหน้าได้

“หลังการหารือก็มีความสบายใจ ถึงมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีความชัดเจน แต่ก็อยากให้มีการเร่งจัดตั้งรัฐบาลและมีระยะเวลาที่ชัดเจน และจากการพูดคุยก็คาดว่าภายในเดือนกันยายน 2566 จัดตั้งรัฐบาลได้ เพื่อเร่งจัดทำงบประมาณรายจ่าย เนื่องจากห่วงระยะเวลาในการเบิกจ่ายที่จำกัด เบิกไม่ทัน ซึ่งอาจจะกระทบต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมไปถึงต่างชาติก็มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนได้มีการนำทีมเศรษฐกิจของพรรค มาหารือกับหอการค้าไทย อาทิ ปัญหาคอร์รัปชั่น BCG การส่งเสริมเอสเอ็มอี และการขึ้นค่าแรง 450 บาทต่อวัน เป็นต้น รวมทั้งตนก็ได้มีการอัพเดตถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงหน้าที่คณะกรรมการเศรษฐกิจถึงความชัดเจนด้านต่าง ๆ

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ส่วนประเด็นการขึ้นค่าแรง 450 บาทต่อวัน ภายใน 100 วัน ภายหลังจัดตั้งรัฐบาลที่มีการหาเสียงไว้ จากการหารือกับหอการค้าไทย การขึ้นค่าแรงน่าจะมีกรอบระยะเวลาที่ใกล้เคียงกับระยะเวลาเดิม หรือขยับออกไป ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องมีการหารือตัวเลขค่าแรงที่เหมาะสมก่อน และกรณีหากมีการขึ้นค่าแรงจะกระทบต่อราคาสินค้าปรับขึ้นนั้น จากการศึกษาไม่จำเป็นเสมอไปที่ราคาสินค้าจะขึ้นจากปรับค่าแรง และการปรับขึ้นค่าแรงเปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน โดยด้านหนึ่งจะทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดี รายได้เพิ่มขึ้น อีกด้านก็ต้องมีการศึกษา

ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการขึ้นค่าแรงไปก่อนหน้านี้ 350 บาทต่อวัน เป็นการขึ้นค่าแรงเพียง 5% ขณะที่เงินเฟ้อขึ้น 8% อย่างไรก็ดี ประสิทธิภาพของแรงงานก็ต้องมีการส่งเสริม ยกระดับแรงงาน

สำหรับการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลขึ้นอยู่กับการรับรองผลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากมีการรับรองก็จะสามารถเดินหน้าจัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร และมีการเลือกประธานสภา นายกรัฐมนตรี พร้อมกับจัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งต้องการให้เกิดสุญญากาศสั้นที่สุด และเดินหน้าให้เร็วที่สุด เพื่อจัดการเกี่ยวกับงบประมาณและกระตุ้นเศรษฐกิจ


และหลังจากนี้ทางพรรคก้าวไกลจะมีแผนหารือกับหลายหน่วยงาน โดยในวันจันทร์ 5 มิถุนายน 2566 ตนจะนำทีมไปพบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังจะมีไปหารือแลกเปลี่ยนกับภาคเอกชน เช่น สมาคมธนาคารไทย สมาคมตลาดทุนไทย สมาคมท่องเที่ยวภูเก็ต และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์)