เปิดวาระ สนั่น อังอุบลกุล นำทัพหอค้าไทย-เทศ พบ “พิธา” 31 พ.ค. 66

สนั่น อังอุบลกุล
สนั่น อังอุบลกุล

สนั่น อังอุบลกุล นำทัพหอค้าไทย-เทศ พบ “พิธา” 31 พ.ค. 66 หารือ 9 ประเด็นร้อน เสนอปรับค่าแรง 450 ต้องฟังไตรภาคี มองโอกาสปรับได้หากดันจีดีพีโต 5% ห่วงการรื้องบประมาณฐานศูนย์ กระทบแผนเบิกจ่ายล่าช้าฉุดเศรษฐกิจ พร้อมขอความชัดเจนนโยบายอีอีซี-การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

วันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ที่อาคารหนังสือพิมพ์มติชน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ที่หอการค้าไทย (ราชบพิตร) ตนพร้อมกับคณะกรรมการหอการค้าไทย จะพบปะและหารือกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เพื่อหารือในประเด็นสำคัญ 8-9 เรื่อง

โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจ อาทิ 1.เรื่องค่าแรง เป็นเรื่องที่สำคัญมาก 2.เรื่องค่าไฟฟ้า ค่าพลังงาน 3.เรื่องแก้กฎระเบียบ กฎหมายที่ทำได้ทันทีทำได้เลย 4.ด้านเทคโนโลยี ที่คนรุ่นใหม่ทำได้เก่งอยู่แล้ว โดยใช้ดิจิทัลทรานต์ฟอร์มเมชั่นมาช่วยในทุกด้าน ทั้งด้านบริหารประเทศและประชาชน เป็นเรื่องที่เอกชนเราให้ความสำคัญอย่างมาก 5.หาแนวทางและลดการผูกขาดที่กำลังเป็นที่กังวล โดยเน้นหาทางออกร่วมกัน เป็นต้น

โดยในการประชุมครั้งนี้จะมีหอค้าไทย หอค้าต่างประเทศในไทย นักธุรกิจรุ่นใหม่ในเครือข่ายหอการค้าทั่วประเทศ

“เอกชนอยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลให้ที่สุด ตอนนี้เสียงจากทางผู้ประกอบการในต่างประเทศ และหอการค้านานาชาติจาก 40 ประเทศ ได้สอบถามมาทางหอการค้าไทยและผ่านผมตลอดเวลา รวมถึงทูตต่างประเทศ ซึ่งมีความห่วงใยและความกังวลว่ารัฐบาลใหม่จะจัดตั้งได้เมื่อไหร่ ฟันด์โฟลว์ (Fund Flow) จะได้เข้ามาและมีความชัดเจน ต่างประเทศรอเรื่องรัฐบาลใหม่ ตอนนี้โมเมนตั้มมาแล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจน ก็จะทำให้การจะลงทุนชะงักชั่วคราว จนกว่าจะมีความชัดเจน และการจัดตั้งรัฐบาลจะประกาศต่อทางสภาเป็นอย่างไรบ้าง เป็นสิ่งที่วันที่ 31 พฤษภาคมนี้จะจับเข่าคุยกันด้วย”

ขณะเดียวกัน ห่วงเรื่องการรื้องบประมาณฐานศูนย์ที่อาจจะส่งผลให้การเดินหน้าเบิกจ่ายงบฯล่าช้า ว่าจะใช้งบประมาณไม่ทัน การกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอยู่ระหว่างของการฟื้นตัว การท่องเที่ยว การบริการ เอสเอ็มอี ชุมชน ก็กำลังขยายตัว รอคอยความชัดเจน ถ้าหากงบประมาณเกิดความล่าช้าก็อาจจะกระทบหนักสำหรับเศรษฐกิจไทยแน่ เสียดาย งบประมาณรายจ่ายสำคัญทำได้ก็ทำก่อน ส่วนเรื่องงบประมาณสูงเห็นด้วย แต่ต้องใช้เวลา เข้าใจ เกิดขึ้นได้จริง

ส่วนกรณีการขึ้นค่าแรง 450 บาทต่อวัน ทางหอการค้าต่างประเทศก็ติดตามและให้ความสำคัญ มีการสอบถามซึ่งการหารือก็มีโอกาสที่จะขยายไปเวียดนาม แต่ก็ยังคงดูว่า 450 บาทต่อวันขึ้นได้หรือไม่

“ตอนนี้เสียงการจัดตั้งรัฐบาลจะเดินหน้าก็ต้องฟังเสียงของประชาชน เรามีหอการค้าจังหวัดใกล้ชิดพื้นที่ ก็ต้องหารือ มีกลไก รับฟัง และต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม แต่หากมีความเข้าใจ และมีทางออกไปในทางที่ดีก็จะดีในระยะไกล อีกทั้งก็คงต้องดูประสิทธิภาพเรา ไม่ได้บอกไม่ให้ปรับ แต่ปรับในช่วงเวลาที่เหมาะสม และไม่ควรขึ้นในอัตราเดียวกัน ส่วนจะเห็นการปรับขึ้นในระยะ 1-2 ปีไหม ก็ต้องฟังเสียงของไตรภาคี เราไม่ต้องการชี้นำ การปรับสูตรค่าแรงก็ต้องพิจารณา GDP ของประเทศ หากโต 5% ก็มีโอกาสปรับค่าแรงได้”

นอกจากเรื่องค่าแรง 450 บาท และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว ทางหอการค้าต่างประเทศยังต้องการเห็นการแก้กฎระเบียบ อีกทั้งเรื่องคนอยู่ชั่วคราวเพื่อการพำนักในราชอาณาจักรระยะยาว (Long Stay Visa) เรื่องอีอีซี หรือยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จะทำต่อมั้ย เรื่องเหล่านี้ต้องชัดเจน และทุกฝ่ายรอฟัง เพราะให้เกิดความชัดเจนต่อการลงทุนของคนไทยและต่างชาติที่มีส่วนสำคัญต่อการนำเงินมาลงทุนในไทย