ปตท.ลุ้นไม่ต้องจ่ายค่าปรับชอร์ตฟอล 4,300 ล้าน หลัง กกพ.รับหนังสืออุทธรณ์แล้ว

ก๊าซธรรมชาติ
แฟ้มภาพ

ปตท.ลุ้นไม่ต้องจ่ายค่าปรับ “ชอร์ตฟอล” 4,300 ล้าน หลัง กกพ.รับหนังสืออุทธรณ์แล้ว ยันทำตามเงื่อนไขสัญญา ไม่ได้บกพร่อง ด้านบอร์ด กกพ. ตั้งคณะอนุกรรม ดึงผู้เชี่ยวชาญหาข้อสรุปภายในสิ้นเดือน มิ.ย. 66

วันที่ 6 มิถุนายน 2566 รายงานข่าวจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ออกคำสั่งถึง บมจ.ปตท. เพื่อเรียกเก็บค่าปรับจากผู้ขายก๊าซธรรมชาติในแต่ละวัน (ชอร์ตฟอล) จำนวน 4,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด จ่ายให้กับ บมจ.ปตท. กรณีไม่สามารถผลิตก๊าซแหล่งเอราวัณได้ตามสัญญาสัมปทาน ตั้งแต่กลางปี 2564 จนถึงช่วงหมดสัญญาสัมปทาน ที่มีการส่งมอบแก่กลุ่มบริษัท ปตท.สผ.วันที่ 23 เมษายน 2565 ว่า

ล่าสุด ปตท.ได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งต่อ กกพ.ไปแล้ว เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา เนื่องจาก ปตท.ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว และจำเป็นต้องมีการตีความเงื่อนไขสัญญาต่าง ๆ เป็นมุมมองที่อาจแตกต่างกัน ต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ซึ่งไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน

ทั้งนี้ที่ผ่านมาสัญญาซื้อขายก๊าซ ที่ระหว่าง ปตท.กับผู้ผลิต (เชฟรอน) ก็มีการระบุเงื่อนไขต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเทกออร์เพย์ หรือชอร์ตฟอล กรณีที่ผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบก๊าซได้ตามสัญญาก็จะมีบทปรับเกิดขึ้น โดย ปตท.ดำเนินการตามเงื่อนไขสัญญา ไม่ได้ทำอะไรที่บกพร่อง

ที่ผ่านมา ปตท.ได้ดำเนินการช่วยเหลือค่าครองชีพด้านพลังงานให้กับประชาชนมาโดยตลอด โดยเห็นว่า ตลอดระยะเวลาของวิกฤตโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ราคาพลังงานปรับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการผลิตพลังงานในตลาดโลก

ปตท.ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติได้ร่วมแก้ไขและบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมรองรับปริมาณความต้องการของประเทศทั้งในภาคประชาชน การขับเคลื่อนอุตสาหกรรม เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 20,000 ล้านบาท เป็นช่วยเหลือระหว่างปี 2563-2565 เช่น การสำรองน้ำมัน 4 ล้านบาร์เรล การตรึงราคาเอ็นจีวี การช่วยเหลือราคาแอลพีจี แก่หาบเร่แผงลอยผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การสนับสนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ และการขยายเครดิตเทอมแก่ กฟผ. เพื่อลดภาระค่าเอฟที

ด้านรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า กกพ.ได้รับหนังสือยื่นอุทธรณ์แล้ว ซึ่ง ปตท.กล่าวถึงประเด็นเงื่อนไขสัญญาว่าสามารถดำเนินการได้ โดยการประชุมบอร์ด กกพ.ล่าสุด ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาการอุทธรณ์ดังกล่าวแล้ว เพื่อหาข้อสรุปโดยเร็ว จะพยายามให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ หรือต้นเดือนหน้า เพื่อนำเงินมาลดราคาก๊าซธรรมชาติ ส่งผ่านไปถึงต้นทุนค่าไฟงวดใหม่ให้ถูกลง

สำหรับคณะอนุกรรมการดังกล่าว มีบอร์ด กกพ.เป็นประธาน มีกรรมการเป็นผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนต่าง ๆ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ตัวแทนจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ, อดีตผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพลังงาน, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), สำนักอัยการสูงสุด, สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

รวมทั้งจะเชิญ บมจ.ปตท. บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต ผู้ได้รับสัมปทานเดิม มาให้ข้อมูล แต่ไม่ได้อยู่ในส่วนของคณะทำงาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย