TMI ดีเดย์ ขายคาร์บอนเครดิต 92,000 ตัน/ปี ต้อนรับมาตรการ CBAM ตุลาคมนี้ พร้อมเปิดทางเจรจาขายกับกองทุนต่างประเทศทันที หวังดันรายได้ ขยายกำไรเติบโตแบบก้าวกระโดด
วันที่ 12 กันยายน 2566 นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมในการลงทุนในธุรกิจขายคาร์บอนเครดิต หลังจากโรงไฟฟ้าชีวภาพ แห่งที่ 3 จังหวัดสุพรรณบุรี ขนาดกำลังผลิต 3 เมกะวัตต์ เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา
โดยปัจจุบันมีกำลังผลิตกว่า 90% ของกำลังการผลิตติดตั้ง นับเป็นโรงไฟฟ้าที่เป็นแหล่งพลังงานที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการบริหารจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อยู่ที่ 92,000 ตันต่อปี จากการประเมินของสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ TMI ยกเรื่องคาร์บอนเครดิตเป็นวาระเร่งด่วน เนื่องจากมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism หรือ CBAM) ของคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission หรือ EU) ซึ่งกำหนดอัตราภาษีธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Carbon Tax) สำหรับผู้นำเข้าสินค้ามาในกลุ่มประเทศ EU เพื่อเร่งให้ประเทศคู่ค้าของ EU ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566
จึงทำให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในประเทศที่เป็นคู่ค้ากับ EU ต้องซื้อคาร์บอนเครดิต เพื่อไปชดเชยอัตราภาษีธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งผลทำให้ความต้องการในการซื้อคาร์บอนเครดิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและมีราคาสูงตามไปด้วย
นายธีระชัยกล่าวอีกว่า ปัจจุบัน TMI ได้เปิดรับการเจรจากับกองทุนต่างประเทศ ทั้งจากประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และยุโรป เพื่อขายคาร์บอนเครดิต ที่มี 92,000 ตัน เบื้องต้นมีหลายกองทุนสนใจและต้องการซื้อ เพราะเป็นข้อกำหนดของกองทุนว่าจะต้องมีการลงทุนในบริษัทที่มีการขายคาร์บอนเครดิตตามมาตรฐานกองทุนโลก คาดว่าภายในไตรมาส 4/2566 น่าจะเซ็นสัญญาขายคาร์บอนเครดิตได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาตกลงราคา โดยช่วงนี้จะขายเป็นสัญญาระยะสั้น 1-2 ปี หลังจากนั้นค่อยเซ็นสัญญาระยะยาว
“TMI พร้อมเปิดกว้างที่จะซื้อขายโดยตรงกับบริษัทที่มีความจำเป็นต้องใช้คาร์บอนเครดิต เพื่อไปชดเชย Carbon TAX หากตกลงราคากันได้ ก็พร้อมขายทันที โดยขอยกตัวอย่าง Carbon TAX ที่สิงคโปร์ ราคาซื้อขายอยู่ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อหน่วย ถ้าเราขายได้ที่ราคา 60 ดอลลาร์สหรัฐ ก็จะมีรายได้เกือบ 200 ล้าน ส่วนในยุโรป ราคาประมาณ 30-50 ยูโรต่อหน่วย หากเราขายคาร์บอนเครดิตได้ทั้งหมดตามที่มี จะส่งผลดีต่อรายได้และกำไรของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ” นายธีระชัยกล่าว