ราคาน้ำมันดิบ (19 ก.ย.) ปรับเพิ่ม หลังตลาดกังวลอุปทานตึงตัว

ราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังตลาดกังวลอุปทานตึงตัว

วันที่ 19 กันยายน 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว จากการขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตของซาอุดีอาระเบียและรัสเซียที่ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปี 2566 ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ระบุในรายงานประจำเดือนว่า ผลผลิตน้ำมันของสหรัฐจากภูมิภาคที่มีการผลิตหินดินดาน (shale oil) คาดว่าจะลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกันในเดือน ต.ค. สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 66

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 18 ก.ย. 2566 อยู่ที่ 91.48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.71 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 94.43 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.50 เหรียญสหรัฐ

               

วานนี้ (18 ก.ย.) เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ได้แถลงเพื่อปกป้องการลดกำลังผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC+ โดยกล่าวว่าตลาดพลังงานระหว่างประเทศจำเป็นต้องมีกฎระเบียบที่ยืดหยุ่นได้เพื่อจำกัดความผันผวนในตลาด ขณะเดียวกันก็เตือนถึงความไม่แน่นอนของอุปสงค์จากจีน การเติบโตของยุโรป รวมทั้งการดำเนินการของธนาคารกลางเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ

นักวิเคราะห์คาดว่าในไตรมาสที่สี่ของปี อุปทานน้ำมันดิบทั่วโลกจะขาดดุลกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันคงคลังลดลง และทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงต่อเนื่องไปถึงปี 2567 โดย Citibank คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์อาจพุ่งสูงเกิน 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในช่วงสิ้นปีนี้

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการส่งออกน้ำมันเบนซินจากสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ดี ราคายังได้รับแรงหนุนจากอุปทานจากไต้หวันที่คาดว่าจะลดลงในช่วงการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่น

Advertisement

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขส่งออกน้ำมันดีเซลจากจีนในเดือน ส.ค. สูงถึง 1.55 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เพียง 0.6-0.8 ล้านตัน