รง.ปุ๋ยกัดฟันช่วยลดราคา 8% ยื่นข้อเสนอเจรจา ก.เกษตรเปิดทางนำเข้า

ปุ๋ย

สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย กัดฟันหั่นราคา 8% ตั้งแต่ 10-40 บาท/กระสอบ ยื่นขอพาณิชย์ประสานเกษตรฯเร่งไฟเขียว “อนุญาตนำเข้าปุ๋ย” เร็วขึ้นจาก 4 เดือน เหลือ 1.5 เดือน มั่นใจปุ๋ยมีปริมาณเพียงพอใช้ 4.5 ล้านตันต่อปี หลังราคาพุ่งยอดการใช้ปุ๋ยปี’66 หดตัวลง 5 แสนตัน

นายกองเอก เปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สมาคมได้เข้าร่วมประชุมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยยินดีให้ความร่วมมือในโครงการพาณิชย์สั่งลุยลดราคาสินค้า ลดค่าครองชีพ โดยการปรับลดราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมี 8% จากราคาปกติ คิดเป็น 10-40 บาทต่อกระสอบ มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2566 นี้

เนื่องจากภาคเอกชนมองว่าการลดราคาจะช่วยให้ภาพรวมของเศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนจะมีกำลังซื้อมากขึ้น และอีกด้านหนึ่งรัฐบาลรับจะช่วยดูแลในเรื่องของปัญหาอุปสรรคของภาคเอกชนด้วยนับว่าเป็นรัฐบาลแรกที่ให้ความสนใจปัญหาของเอกชน หลังจากที่ผ่านการทำงานร่วมกันมาแล้วหลายรัฐบาล

“สมาคมได้ให้ความร่วมมือในการปรับลดราคามาตลอด จนถึงล่าสุดที่รัฐบาลใหม่ขอความร่วมมือในการตรึงราคา ขออย่าเพิ่งปรับขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจส่วนรวมขยายตัวดีขึ้น ซึ่งเราพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ลดได้ 8% โดยเฉลี่ย คิดเป็นราคาตั้งแต่ 10-40 บาทต่อกระสอบ ต้องยอมรับว่าต้นทุนเรามาแพง แต่พวกเราทุกคนพยายามช่วยดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล แต่ก็หวังว่ารัฐบาลจะช่วยดูแลข้อขัดข้องต่าง ๆ ได้”

สำหรับข้อเสนอที่ทางสมาคมประสานขอกระทรวงพาณิชย์ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการลดราคาด้วยการแก้ไขอุปสรรคในการนำเข้า โดยให้ช่วยประสานกับทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในเรื่องการอำนวยความสะดวก และลดระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัติตามที่เอกชนขออนุญาตนำเข้าปุ๋ยให้เร็วขึ้นจากปกติเฉลี่ย 4 เดือน ขอให้เหลือประมาณไม่เกิน 1.5 เดือน

“ประเด็นนี้ไม่ได้เป็นเพราะกรมวิชาการฯดำเนินการล่าช้า แต่เนื่องจากที่ผ่านมามีการขออนุญาตนำเข้าปุ๋ยสูตรต่าง ๆ มีจำนวนมากพอสมควร ทำให้เกิดการล่าช้า ด้วยจำนวนบุคลากรในกรมมีจำกัด และยังถูกตัดลดงบประมาณลงอีก ซึ่งการหารือครั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ จะช่วยขอให้กรมวิชาการฯไฟเขียวในเรื่องปุ๋ยที่สั่งนำเข้าต่าง ๆ ในช่วงนี้ซึ่งมีจำนวนมากพอสมควร ประเด็นคือ การแก้ปัญหาดีเลย์ โดยเฉพาะส่วนนี้ให้เร็วขึ้นประมาณเดือนครึ่งจากปกติ 4 เดือน ซึ่งจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของทางกระทรวงเกษตรฯ แต่ผมเชื่อว่าอยู่ใต้รัฐบาลเดียวกันก็ไม่น่าจะมีปัญหา”

สำหรับปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการลดราคา อาทิ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด (CPP) ผู้ผลิตปุ๋ยตราลูกโลกดอกบัวบาน ปรับลดราคาปุ๋ย 5 สูตร กระสอบละ 20 บาท จากราคาเฉลี่ย 835-1,250 บาท/กระสอบ เหลือ 815-1,230 บาท/กระสอบ บริษัท เวสโก้ เคมี ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตปุ๋ยตราเวสโก้ ลดราคาปุ๋ย 10-0-43 กระสอบละ 10 บาท จาก 110 บาท เหลือ 90 บาท, บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตปุ๋ยตรา MC หัววัวคันไถ ลดราคาทั้งหมด 11 สูตร เฉลี่ยกระสอบละ 20-22.50 บาท จาก 742.50-960 บาท เหลือ 720-940 บาท,

บริษัท ศักดิ์สยาม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตปุ๋ยตราฆ้องสยาม และสิงโตสยาม 2007 ได้ลดราคาปุ๋ย 6 สูตร ลดราคา 20-25 บาทต่อกระสอบ จาก 800-1,190 บาท เหลือ 780-1,165 บาท และบริษัท ไฮโดรไทย จำกัด ผู้ผลิตปุ๋ยตราเรือใบไข่มุก ลดกระสอบละ 20-25 บาท จาก 825-1,250 บาท เหลือ 805-1,225 บาท เป็นต้น

ด้านสถานการณ์ปริมาณปุ๋ยขณะนี้ยืนยันว่าสต๊อกปุ๋ยในประเทศยังมีปริมาณเพียงพอสำหรับการใช้เพิ่มผลผลิตในช่วงฤดูกาลเพาะปลูก โดยเป็นผลจากผู้ประกอบการสั่งนำเข้ามาสต๊อกไว้ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งขณะนั้นมีต้นทุนที่สูงมาก ๆ แต่ผู้ประกอบการยินดีจะช่วยลดราคา

สำหรับปริมาณความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีของเกษตรกรไทยปีนี้คาดว่าจะมีปริมาณ 4.5 ล้านตัน ลดลง 5 แสนตัน จากปกติที่มีความต้องการใช้เฉลี่ย 5 ล้านตัน เป็นผลจากช่วงต้นปีปุ๋ยมีราคาสูง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดหลังจากรัสเซียประกาศนโยบายว่าจะไม่ให้ความร่วมมือในการส่งสินค้าน้ำมันและสินค้าต่าง ๆ ให้กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ยกเว้นประเทศที่เป็นมิตรกับรัสเซีย แต่ก็โชคดีที่ปุ๋ยเป็นสินค้าที่รัสเซียไม่ได้แบน ส่วนปัญหาการนำเข้าหลักมาจากการหาเงินรูเบิลในตลาดทำได้ยาก จากที่สหภาพยุโรปและสหรัฐแบนรัสเซีย

“ใครก็ตามที่ค้ากับรัสเซียต้องหาเงินรูเบิล ทำให้เกิดปัญหาพอสมควร อย่างไรก็ดี ถือว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการดำเนินนโยบายการต่างประเทศที่เป็นกลางกับทุกฝ่าย ทำให้รัสเซียส่งปุ๋ยมาสู่ประเทศไทยได้ เช่นเดียวกับเบลารุสที่ถูกบล็อกโดยสหรัฐและยุโรป แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับไทย