
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผย ออสเตรเลีย ประกาศยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ปี 2583 ช่วยกระตุ้นการค้าการลงทุนในอาเซียนและไทย คาดมูลค่าการค้าจะขยายตัวถึง 6.3% หนุนสาขาที่ไทยมีศักยภาพ แนะผู้ประกอบการไทยต่อยอดขายโอกาสทางการค้าและการลงทุนกับออสเตรเลีย
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ออสเตรเลียได้ประกาศยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ปี 2583 ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์กับภูมิภาคอาเซียนส่งเสริมการค้าการลงทุนให้เติบโตขึ้น และกระตุ้นการลงทุนของนักธุรกิจชาวออสเตรเลียให้ลงทุนในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงไทย
โดยคาดการณ์ว่า หากมีการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น มูลค่าการค้าจะขยายตัวถึง 6.3% หรือประมาณ 343 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2583 จึงถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะต่อยอดและขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนกับออสเตรเลีย
ทั้งนี้ นายแอนโทนี แอลบานีส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้แต่งตั้ง นายนิโคลัส มัวร์ เป็นผู้แทนพิเศษสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้นำการหารือกับภาคส่วนต่าง ๆ อย่างรอบด้าน และได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว
โดยเล็งเห็นถึงศักยภาพของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะสามารถเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นอันดับ 4 ของโลก ภายในปี 2583 รองจากสหรัฐ จีน และอินเดีย ด้วยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 4% ระหว่างปี 2565-2583 ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของประชากรและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในภูมิภาค
สำหรับยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้ระบุสาขาที่มีความน่าสนใจและมีศักยภาพในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนกับไทย อาทิ เกษตรและอาหาร ซึ่งออสเตรเลียมีศักยภาพในการป้อนวัตถุดิบด้านเกษตรขั้นสูง การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสีเขียว นักลงทุนออสเตรเลียสามารถเข้ามาลงทุนด้านเทคโนโลยีสีเขียว ยานยนต์ไฟฟ้า การผลิตแบตเตอรี่ และธุรกิจ BCG การศึกษาและการพัฒนาทักษะแรงงานต่าง ๆ ผ่านระบบการรับรองการศึกษาทางเลือก
อาทิ การท่องเที่ยว บริการโรงแรม เทคโนโลยีสารสนเทศ การก่อสร้าง และผลิตอาหาร เศรษฐกิจดิจิทัล โดยเฉพาะตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านภาพยนตร์ เกม แอนิเมชั่น ศิลปะ แฟชั่น และวัฒนธรรม และบริการสุขภาพ
โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนโครงสร้างประชากร ทั้งไทยและออสเตรเลีย ที่จะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยมากขึ้น จึงมีความต้องการที่จะส่งเสริมการลงทุนในด้านนี้ อาทิ เทคโนโลยีด้านการแพทย์ เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ และการฝึกอบรมดูแลผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ รายงานยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้ประเมินสัดส่วนการลงทุนของออสเตรเลียในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยในปี 2565 มีมูลค่า 123.1 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย คิดเป็นสัดส่วน 3.4% ของการลงทุนทั่วโลกของออสเตรเลีย ส่วนด้านการค้า ออสเตรเลียเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 8 ของอาเซียน มีสัดส่วนการค้า 3.4% โดยส่งออกสินค้ากลุ่มแร่ธาตุและเชื้อเพลิงเป็นหลัก
ซึ่งจากปริมาณการค้าและการลงทุนที่ค่อนข้างจำกัด จึงน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลออสเตรเลียให้ความสำคัญกับการจัดทำยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของออสเตรเลียกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน
ทั้งนี้ ไทยและออสเตรเลียมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ร่วมกัน 3 ฉบับ คือ ไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) นอกจากนี้ ในปี 2565 การค้าระหว่างไทยและออสเตรเลีย มีมูลค่า 18,315.60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 6.27% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
โดยไทยส่งออกไปออสเตรเลีย มูลค่า 11,187.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากออสเตรเลีย มูลค่า 7,128.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และอัญมณีเครื่องประดับ สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ ก๊าซธรรมชาติน้ำมันดิบ และสินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์