
รู้จัก ชอร์ตฟอล มีความหมายว่าอย่างไร จะช่วยลดปัญหาค่าไฟแพงได้อย่างไร
วันที่ 28 ธันวาคม 2566 ข่าวใหญ่อีกครั้งเมื่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้พิจารณายกอุทธรณ์ กรณีที่ บมจ.ปตท. ไม่เห็นพ้องกับคำสั่ง กกพ.ที่ 44/2566 เรื่องการส่งผ่านราคาก๊าซธรรมชาติอ่าวไทย
เนื่องจากผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบก๊าซได้ตามเงื่อนไขสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติ หรือ “ชอร์ตฟอล” ส่งผลให้ ปตท. ต้องนำมูลค่าก๊าซที่มีการปรับลดลงจากผู้ผลิตประมาณ 4,300 ล้านบาท มาเป็นส่วนลดในราคา Pool Gas เพื่อเป็นส่วนลดให้กับการคิดค่าไฟฟ้างวดแรก เดือนมกราคม 2567 หลายคนอาจจะสงสัย ชอร์ตฟอล (Shortfall) คืออะไร “ประชาชาติธุรกิจ” สรุปให้
ชอร์ตฟอลคืออะไร
ย้อนกลับไปในช่วงปลายสัญญาสัมปทาน แหล่งปิโตรเลียมอ่าวไทยอย่าง “เอราวัณ” ที่ ปตท.สผ. ผู้ชนะการประมูลรอบใหม่มีกำหนดรับช่วงต่อ เจ้าของสัมปทานเดิมอย่าง บริษัทเชฟรอน ไทยแลนด์ โฮลดิ้ง ในวันที่ 23 เมษายน 2565
ซึ่งต้องอธิบายว่า รัฐบาลได้เปิดประมูลในระบบแบ่งปันผลผลิต (production sharing contract หรือ PSC) แปลง เอราวัณ (G1/61) และแปลงบงกช (G2/61) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นการแข่งขันกันระหว่าง 2 บริษัท ระหว่าง “บริษัทเชฟรอน ไทยแลนด์ โฮลดิ้ง” กับ “บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์” ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ ผลปรากฎว่า ปตท.สผ. เป็นผู้ชนะประมูลและรับสิทธิ PSC ต่อจากเชฟรอน ที่จะสิ้นสุดสัมปทานในวันที่ 23 เมษายน 2565 นั่นเอง
ชอร์ตฟอล คำนวณจากอะไร
ชอร์ตฟอล (Shortfall) หากแปลตรงตัวจะมีความหมายความว่า ปริมาณหรือจำนวนที่น้อยกว่าระดับที่คาดการณ์หรือที่ต้องการ นั่นก็คือ เมื่อเชฟรอนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ทำให้เชฟรอนไม่ได้มีการบำรุงรักษาเพื่อคงการผลิตของแหล่งเอราวัณให้คงกำลังการผลิต 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
ขณะเดียวกันก็ไม่ได้เปิดทางให้ ปตท.สผ. เข้าพื้นที่ เพื่อไปติดตั้งแท่นในหลุมผลิตก๊าซในแหล่งเอราวัณได้ตามสัญญาสัมปทาน ทำให้ในที่สุด เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนผ่านในเดือนเมษายน 2565 เอราวัณไม่สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติให้ได้ตามสัญญาที่กำหนด 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันได้
โดยมีการประเมินว่าแหล่งเอราวัณในตอนนั้นผลิตได้เพียง 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตเท่านั้น ทำให้มีส่วนต่างอยู่ถึง 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งตามสัญญากำหนดว่า ส่วนที่ผลิตไม่ได้ตามสัญญาจะต้องคิดราคาต่ำกว่า หรือให้ส่วนลด 75% แทน
ด้วยเหตุนี้เชฟรอนจึงได้จ่ายเงินส่วนต่าง 4,300 ล้านบาทให้กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อชดเชยกรณีที่ผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบก๊าซได้ตามเงื่อนไขสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติ (ชอร์ตฟอล)
โดยต้องคิดราคาก๊าซงวดต่อไปตามจำนวนที่ขาดส่งในราคา 75% จากราคาปกติ เป็นผลให้ ปตท. ได้ซื้อแก๊สธรรมชาติในส่วนดังกล่าวถูกกว่าปกติ 25% หรือคิดเป็นมูลค่ารวมระหว่างเดือนตุลาคม 2563-ธันวาคม 2565 รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,300 ล้านบาท
ทำไม ปตท.ต้องเสีย 4,300 ล้าน
อย่างไรก็ตาม จากการที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ตรวจสอบพบว่า ช่วงต้นปี 2565 ปตท.กลับนำก๊าซในส่วนที่ซื้อด้วยราคาต่ำกว่า 75% มาคำนวณราคาเต็ม 100% ในราคา Pool Gas จึงสะท้อนไปยังต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากประชาชน
อีกทั้งในก๊าซส่วนที่ขาดไป เป็นเหตุให้ต้องสั่งนำเข้าก๊าซจากต่างประเทศที่ซื้อแบบ spot ส่งผลให้ต้นทุนมีราคาสูงมากในช่วงดังกล่าว เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าไฟฟ้าแพง และทำให้ประชาชนจ่ายค่าไฟฟ้าเกินจริงในส่วนที่ผลิตจากการชอร์ตฟอลในครั้งนี้
ทาง กกพ. จึงได้ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 127 ออกคำสั่งที่ 44/2566 ให้ ปตท.ในฐานะผู้รับใบอนุญาต ต้องปฏิบัติตามมาตรา 65 (1) และ (4) มาตรา 68 และมาตรา 71 ส่งนำต้นทุนราคาก๊าซชอร์ตฟอล ซึ่งมีราคาถูกกว่าราคาจริงประมาณ 25% หรือ 4,300 ล้านบาท มาใช้คำนวณ Pool Gas จะมีผลในการลดค่าไฟฟ้างวดพฤษภาคม-มกราคม 2566
จุดพลิก ปตท.อุทธรณ์ต่อ กกพ.
ทว่า ทาง ปตท. ซึ่งเป็นผู้คำนวณสมมุติฐานราคาก๊าซธรรมชาติในสูตรค่าเอฟที ก็ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว และจำเป็นต้องมีการตีความเงื่อนไขสัญญาต่าง ๆ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา
กกพ.ยกอุทธรณ์ ปรับ 5 แสนต่อวัน
กระทั่ง เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 กกพ. มีมติยก “อุทธรณ์” มีผลให้ ปตท.ต้องปฏิบัติทันที โดยต้องนำมูลค่าก๊าซที่มีการปรับลดลงจากผู้ผลิตประมาณ 4,300 ล้านบาท มาเป็นส่วนลดในราคา Pool Gas เดือนมกราคม 2567 เพื่อนำมาลดต้นทุนค่าไฟฟ้าในงวดเดือนมกราคม – เมษายน 2567 หรืองวดค่าไฟที่จะถึงในเร็วนี้
มิฉะนั้น กกพ.จำเป็นต้องใช้อำนาจตามมาตรา 128 ปรับวันละ 5 แสนบาท จนกว่า ปตท.จะปฏิบัติตามคำสั่ง หรืออาจจำเป็นต้องใช้อำนาจตามมาตรา 122 (2) และมาตรา 132
ปตท.ยังอุทธรณ์คำสั่ง กกพ.ได้อีก
ซึ่งหาก ปตท.ไม่เห็นด้วยกับคำสั่ง กกพ.ในครั้งนี้ ยังสามารถที่จะยื่นอุทธรณ์คำสั่ง กกพ. ซึ่งเป็นคำสั่งทางปกครองได้ที่ศาลปกครอง และหากศาลปกครองมีมติคุ้มครองชั่วคราวให้กับ ปตท. ก็จะมีผลให้ กกพ.ไม่สามารถดำเนินการดึงเงิน 4,300 ล้านออกมาได้
แต่ในระหว่างนี้ กกพ.จะดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานชาติ (กพช.) ที่มีมติมาทุกเรื่อง เมื่อหนังสือแจ้งมติ กพช.ส่งมาถึง
ผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วไป ยังต้องรอ
ซึ่งเท่ากับว่า ในช่วงระหว่างนี้ไปจนถึงจะมีหนังสือ กพช.จะมาถึงและเข้าสู่กระบวนการพิจารณาทบทวนอัตราค่าไฟงวด ม.ค.-เม.ย. 2567 ใหม่ ให้ต่ำกว่า 4.20 บาทตามนโยบาย ทางผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วไป (ที่ใช้ไฟในอัตราเกินกว่า 300 หน่วย) ก็จะต้องเสียค่าไฟฟ้าตามอัตราที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ คือ 4.68 บาท ไปก่อน แล้วหลังจากหาก กกพ.พิจารณาทบทวนค่าไฟต่ำกว่า 4.20 บาทแล้วจะมีการชดเชยหรือคืนเงินส่วนต่างค่าไฟฟ้างวดนี้ให้กับประชาชนก็ต้องดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง
พีระพันธุ์จี้ กกพ.สอบเพิ่มชอร์ตฟอล
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เรื่อง ชอร์ตฟอล ยังได้ถูกขยายผลต่อเนื่องไปอีก โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ส่งหนังสือไปยังสำนักงาน กกพ. เพื่อขอให้ตรวจสอบการจัดหาราคาก๊าซธรรมชาติของ ปตท. ว่า มีช่วงเวลาอื่นที่เกิดชอร์ตฟอลอยู่อีกหรือไม่ นอกเหนือจากช่วงตุลาคม 2563-ธันวาคม 2565
หากมีการกระทำดังกล่าว ถือเป็นการเอาเปรียบประชาชน เพราะเมื่อราคา Pool Gas สูงขึ้นจะส่งผลต่อการคำนวณค่าไฟฟ้า ซึ่งกระทบต่อภาคประชาชน และภาคเอกชน จึงสั่งการให้สำนักงาน กกพ. เข้าไปตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวแล้ว
จับตาเอราวัณ ผลิตทันตามเป้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติระบุว่า แหล่งก๊าซเอราวัณ (G1/61) ซึ่งปตท.สผ. เป็นเจ้าของสัมปทาน ปัจจุบันมีกำลังการผลิตได้ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต (ล้าน ลบ.ฟ.) ต่อวัน แต่เนื่องจากปัญหาเกิดจากเครนของเรือ K1 ซึ่งเป็นเรือที่ใช้สำหรับติดตั้งแท่นหลุมผลิตของแปลงสำรวจเกิดความเสียหาย ส่งผลให้เป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ว่า จะมีกำลังผลิตที่ 600 ล้าน ลบ.ฟ.ต่อวัน ในวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ล่าช้าไปประมาณ 2 เดือน
แต่ยังคงให้ความมั่นใจว่า ความล่าช้านี้จะไม่กระทบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตที่ 800 ล้าน ลบ.ฟ.ต่อวัน ภายในวันที่ 1 เมษายน 2567
ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องจับตามองว่า แหล่งเอราวัณที่ ปตท.สผ.ดูแลอยู่นี้จะสามารถผลิตได้ทันตามกำหนดการในวันที่ 1 เมษายน 2567 ที่จะถึงนี้หรือไม่ หรือว่าจะเกิดช่วง “ชอร์ตฟอล” อีก ที่อาจต้องให้ประชาชนแบกภาระกันต่อไป