
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติส่งหนังสือแนวทางปฏิบัติถึง 9 องค์กร กลุ่มฟาร์มครบวงจร และห้างค้าส่ง ค้าปลีก เดินหน้าแก้ปัญหาให้ผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศ หลังที่ประชุม 4 มกราคม 2567 เห็นชอบช่วยผู้เลี้ยงสุกรฝ่าวิกฤตหมูเถื่อน
วันที่ 10 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ นำเจตนารมณ์ของการประชุมเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 โดยที่ประชุมเห็นไปในทางเดียวกันคือ ต้องดูแลผู้ผลิตต้นทางไม่ให้เกิดความเสียหายที่ดำเนินมากว่า 10 เดือน
กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรเห็นชอบให้แจ้งกลุ่มผู้ค้าส่ง ค้าปลีก ผู้ค้าส่งสุกรเข้าห้าง ผู้ค้าสุกรหน้าฟาร์ม และฟาร์มเกษตรครบวงจร ให้ปรับระดับราคาตามโครงสร้างต้นทุนสุกรขุนมีชีวิต ณ น้ำหนักขายที่ประมาณ 100 กิโลกรัม โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 80 บาทต่อกิโลกรัม แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยส่ง 9 องค์กร ประกอบด้วย
- บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
- บริษัท บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด
- บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด
- บริษัท ฟู้ดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด
- บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด
- บริษัท วี.ซี.มีท จำกัด
- บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
- บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด
โดยเนื้อหาในหนังสือฉบับนี้ระบุว่า “จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นประธานการประชุม เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาความเดือดร้อนของผู้เลี้ยงสุกร จากการขายสุกรมีชีวิตต่ำกว่าต้นทุนการผลิตมาเป็นเวลากว่า 10 เดือน เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 ที่ประชุมมีความเห็นไปในแนวทางเดียวกันคือ ต้องดูแลผู้ผลิตต้นทางไม่ให้เกิดความเสียหายอีกต่อไป
กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศจึงเห็นชอบให้แจ้งกลุ่มผู้ค้าส่งค้าปลีก ผู้ค้าส่งสุกรเข้าห้าง ผู้ค้าสุกรหน้าฟาร์ม และฟาร์มเกษตรกร ให้ปรับฐานระดับราคาดังนี้
ในวันพระที่ 10 มกราคม 2567 ผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศจะขอปรับฐานราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ในขั้นแรกที่ 68-74 บาทต่อกิโลกรัม (จากราคาเป้าหมายตามต้นทุนการผลิต ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อเป็นเกณฑ์กำหนดราคาขายสุกรมีชีวิตในวันพระถัดไป)
ขอให้ห้างค้าส่ง ค้าปลีก และผู้ค้าส่งชิ้นส่วนสุกรเข้าห้าง กำหนดราคาชิ้นส่วนเนื้อสุกรตามโครงสร้างต้นทุนการผลิตสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มตามข้อ 1 จากระดับราคาในข้อ 2 จะทำให้ห้างค้าส่ง ค้าปลีก ใช้เป็นเกณฑ์ในการกำหนดราคาจำหน่ายปลีกชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้สอดคล้องตลอดห่วงโซ่การผลิตผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศ
ขอขอบพระคุณท่านที่เข้าใจปัญหาและยินดีปฏิบัติตามข้อหารือจากที่ประชุมเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 จึงขอให้ท่านดำเนินการตามขั้นตอนการปรับฐานราคาดังที่กล่าวไว้ข้างต้น เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้กับทุกห่วงโซ่ของการผลิตที่ช่วยดูแลกัน เพื่อลดความเสียหายของอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรต้นทาง ผลักดันเศรษฐกิจโดยไม่ให้กลุ่มหนึ่งกลุ่มใดต้องเดือดร้อนและเกิดภาระหนี้สินล้นพ้นตัว
โดยราคาหน้าฟาร์มที่จะเริ่มต้นในวันพระที่ 10 มกราคม 2567 จะเป็นช่วงราคาทั้งประเทศระหว่าง 68-74 บาทต่อกิโลกรัม จากราคาเป้าหมายตามต้นทุนการผลิตที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อเป็นเกณฑ์กำหนดราคาขายสุกรมีชีวิตในวันพระถัดไป คาดว่าราคาจะทยอยเข้าสู่ต้นทุนการเลี้ยงก่อนเทศกาลตรุษจีนในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะสามารถยุติปัญหาการขาดทุนอย่างยาวนานได้”
นายสิทธิพันธ์ยังฝากให้กรมปศุสัตว์และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ “พญานาคราช” ช่วยสอดส่อง กวาดล้างการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนสุกรลักลอบที่ฝังตัวตามห้องเย็นต่าง ๆ ให้หมดสิ้นโดยเร็ว เพราะยังปรากฏการเคลื่อนย้ายอยู่เป็นจำนวนมาก
โดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กำลังดำเนินการทำเรื่องให้มีการเพิ่มเติมฟาร์มต้นทางกับสินค้าปศุสัตว์ OK เพื่อสร้างกฎเกณฑ์ให้สังคมดูแลกันและกัน ลดความแตกแยกในอุตสาหกรรมสุกรทั้งหมด ที่ไม่เป็นผลดีต่อบ้านเมืองแต่ประการใด ถ้ามีการตอบโต้กันไปมาถึงขั้นยื่นถอดถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่จะนำมาซึ่งความเสียหายที่บานปลายต่อระบบเศรษฐกิจทั้งประเทศ