สินค้านำเข้าปุ๋ย-เหล็ก ราคาไม่ขยับจากปัญหาทะเลแดง

ปุ๋ย

กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ทะเลแดง กระทบนำเข้าวัตถุดิบ ปุ๋ย-เหล็ก อย่างใกล้ชิด รับมีผลต่อต้นทุนการขนส่ง ย้ำยังไม่มีการปรับขึ้นราคา เนื่องยังมีปัจจัยดีมานด์-ซัพพลาย ขณะที่ราคาปุ๋ยส่วนใหญ่ลดลงสูงสุด 48%

วันที่ 12 มกราคม 2567 ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากกรณีกองทัพฮูตีโจมตีเรือขนส่งสินค้าเส้นทางทะเลแดง ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบในการผลิตสินค้า จากการหารือร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) และตัวแทนสายการเดินเรือ พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนการขนส่งสินค้า ทั้งเป็นสินค้าส่งออกและนำเข้า

สำหรับสินค้านำเข้าที่เป็นวัตถุดิบ โดยเฉพาะวัตถุดิบปุ๋ยเคมี และเหล็กนั้น ต้องรับมีผลต่อการขนส่งสินค้า แต่ยังไม่กระทบทำให้ราคาจำหน่ายปรับเพิ่มขึ้น โดยพบว่าเหล็กยังมีแนวโน้มทรงตัว ขณะที่ความต้องการใช้ในตลาดโลกในอัตราที่ต่ำ เนื่องจากจีนซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่ประสบปัญหาวิกฤตด้านอสังหาริมทรัพย์ ทำให้อุตสาหกรรมก่อสร้างชะลอตัว ทำให้ปริมาณการผลิตสูงกว่าความต้องการ จึงยังไม่ส่งผลกระทบให้ราคาเหล็กในประเทศปรับเพิ่มขึ้น

โรงงานเหล็ก
ภาพจาก : freepik

ส่วนปุ๋ยเคมียังไม่ส่งผลกระทบต่อราคาจำหน่าย เนื่องจากปุ๋ยในตลาดโลกมีแนวโน้มราคาทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่สถานการณ์การใช้ยังทรงตัว รวมทั้งยังมีปัจจัยบวกจากราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

“ขณะนี้การนำเข้าปุ๋ยและเหล็กยังไม่มีผลกระทบด้านราคา แต่เริ่มมีผลกระทบทางด้านต้นทุนการนำเข้าแล้วจากค่าระวางที่ปรับขึ้น โดยหลังจากนี้จะต้องจับตาสถานการณ์ราคาอย่างใกล้ชิดต่อไป”

ราคาปุ๋ยลดลง

ทั้งนี้ ราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมีเฉลี่ยภาคกลางปรับลดลง เมื่อเทียบกับช่วงกลางปี 2565 (ช่วงราคาปุ๋ยปรับขึ้นสูงสุด) เช่น

  • ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0)
    ราคา 840 บาท/กระสอบ ลดลง 48%
  • ปุ๋ยฟอสเฟต (18-46-0)
    ราคา 1,150 บาท/กระสอบ ลดลง 39%
  • ปุ๋ยโพแทส (0-0-60)
    ราคา 950 บาท/กระสอบ ลดลง 48%
  • ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0)
    ราคา 530 บาท/กระสอบ ลดลง 50%
  • ปุ๋ยสูตร 15-15-15
    ราคา 1,010 บาท/กระสอบ ลดลง 32%
  • ปุ๋ยสูตร 16-20-0
    ราคา 890 บาท/กระสอบ ลดลง 26%