วิกฤตทะเลแดง ส่อยืดเยื้อ ทำค่าระวางเรือพุ่ง 400%

เรือขนส่ง

พาณิชย์ ถกสายเรือ-ผู้ส่งออก ถึงปัญหาทะเลแดง สั่งทูตพาณิชย์ติดตามอย่างใกล้ชิด ด้านผู้ส่งออก ชี้ สถานการณ์ยืดเยื้อ กระทบค่าระวางเรือขึ้น เส้นทางทะเลแดงพุ่งแล้ว 200-400%

วันที่ 11 มกราคม 2567 นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือติดตามสถานการณ์ ผลกระทบ และหามาตรการรองรับกรณีกองทัพฮูติโจมตีเรือขนส่งสินค้าเส้นทางทะเลแดง ร่วมกับสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ,ตัวแทนสายการเดินเรือ และ สำนักงานทูตพาณิชย์ในภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง ว่า

ที่ประชุมได้ขอให้ทางบริษัทสายการเดินเรือ คงราคาค่าระวางเรือที่จองไว้ล่วงหน้า ซึ่งสายเรือรับว่าจะไม่ปรับขึ้น และขึ้นเฉพาะต้นทุนที่แท้จริงเท่านั้น

แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นกับบริษัทแม่ที่อยู่ต่างประเทศด้วย พร้อมกันนี้ ขอให้สายเดินเรือมีการประกาศค่าระวางเรือ อย่างชัดเจนเพื่อที่จะให้เอกชนสามารถวางแผนเพื่อเจรจากับผู้นำเข้าสินค้าได้

นอกจากนี้ เอกชนยังมีข้อกังวลและต้องการให้สายเดินเรือเจรจาท่าเรือขยายเวลา Free time ในการขนส่งสินค้าที่ท่าเรือ จากปัญหาการขนส่งที่ใช้เวลาเพิ่มขึ้น ซึ่งสายเดินเรือพร้อมจะช่วยเจรจา แต่ก็ต้องคำนึง หากขยายเวลา Free time ออกไป อาจเกิดการแออัดในท่าเรือได้ ดังนั้นจึงต้องหาจุดสมดุลทั้ง 2 ฝ่ายซึ่งอาจต้องดูเป็นกรณี ๆ ไป

ในส่วนของปัญหาเรื่องตู้คอนเทนเนอร์ ปัจจุบันตู้ยังมีเพียงพอ แต่กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ เตรียมส่งหนังสือถึงการท่าเรือแห่งประเทศไทย กรมศุลกากร และ กรมเจ้าท่าเพื่อ ให้ช่วยประเมินและรวบรวมจำนวนตู้ทั้งส่งออกและนำเข้าทั้งหมด และจะติดตามประเมินสถานการณ์ตู้อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ดี ในปลายเดือนนี้จะมีการประชุม อีกครั้ง เพื่อติดตามสถานการณ์และประเมินสถานการณ์เพื่อทำงานเชิงรุก กรมได้สั่งการทางสำนักงานทูตพาณิชย์ติดตามสถานการณ์ของการบริหารจัดการที่ท่าเรือ ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ทั้งด้านการนำเข้าและส่งออก เพื่อเตรียมการรับมือในอนาคต

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ที่ทะเลแดง ยังยืดเยื้อ และ เริ่มจะมีผลกระทบต่อการเพิ่มของค่าระวางเรือ ,ระยะเวลาการเดินเรือ, การจองพื้นที่ในเรือหรือ booking space ซึ่งผู้ส่งออกต้องปรับตัวมากขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนค่าระวางเรือในการขนส่งสินค้า ในเส้น North Africa, Middle East, EU ซึ่งขณะนี้ ได้ขยับเพิ่มขึ้น มีความไม่แน่นอนมากขึ้น รวมทั้ง ความล่าช้าในการขนส่งสินค้าไปถึงมือลูกค้า

โดยสินค้าส่งออกไทยที่โดนผลกระทบไปคือ ชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ส่งไปซาอุดีอาระเบีย, แอฟริกาเหนือ และไปยุโรป และการส่งออกยางล้อรถยนต์, สินค้าอาหาร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไปยุโรป ซึ่งสัดส่วนการส่งออกของไทยไปยุโรป อยู่ที่ 7-8% ของการส่งออกรวมทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นตลาดสำคัญของไทย ซึ่งผู้ส่งออกไม่อยากให้ต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้นมากเพราะจะไม่เป็นผลดีต่อการส่งออก

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท Fortune Parts Industry Pubic Company Limited กล่าวว่า ขณะนี้ค่าระวางเรือที่ไป Red Sea ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว โดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 200-400% โดยในเส้นทางการขนส่งไปเมืองเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย, อากาบา จอร์แดน

และซอคน่าของอียิปต์ ค่าระวางเรือได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 8,500 ดอลลาร์ต่อตู้ 20 ฟุต จากเดิมที่อยู่ที่ 1,500 ดอลลาร์ต่อตู้ และตู้ไปตุรกีเป็นเป็น 7,500 ดอลลาร์ต่อตู้ จาก 2,400 ดอลลาร์ต่อต่อตู้ สำหรับเส้นทางไปยุโรป ค่าระวางเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3 เท่าตัว

ดังนั้น ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าจะต้องเตรียมการรับมือในการจองตู้และสายเดินเรือล่วงหน้าประมาณ 1 เดือนและหากเป็นสินค้าส่งออกที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนมาก ควรรอและยืดเวลาการส่งออกไปในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน ก.พ. 2567 นี้ ที่เป็นช่วงวันหยุดตรุษจีน ของประเทศจีน เนื่องจากคาดว่า ค่าเฟดจะลดต่ำลงในช่วงนั้น เมื่อเทียบกับช่วงนี้ที่จีนกำลังเร่งนำเข้าและส่งออก ก่อนจะถึงตรุษจีน