บางจาก จ่อผลิต SAF 31 มี.ค. 68 ผนึกกรมอนามัยเตรียมน้ำมันพืชใช้แล้ว ‘ไม่ทอดซ้ำ’

BCP

บางจากฯ จับมือกรมอนามัย ต่อยอด ‘ทอดไม่ทิ้ง’ ด้วย ‘ไม่ทอดซ้ำ’ หนุนนำผลิต SAF เดินหน้าตามเป้า 1 ล้านลิตรต่อวัน คาด 31 มี.ค. 68 ได้หยดแรก เตรียมดันฮับผลิต SAF ของอาเซียน ดึงน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วจากเมียนมา ลาว และกัมพูชา 

วันที่ 21 มีนาคม 2567 นายธรรมรัตน์ ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด และ แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการ “ไม่ทอดซ้ำ” เพื่อสร้างมาตรฐานให้ผู้ประกอบการในการใช้น้ำมันปรุงอาหารอย่างมีคุณภาพ ปลอดภัย คำนึงถึงสุขภาพผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม

โดยโครงการ “ไม่ทอดซ้ำ” เป็นการรณรงค์ให้ผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ซึ่งเป็นการสร้างทางเลือกในการบริโภคอาหารปลอดภัยให้แก่ประชาชน โดยจะผู้ประกอบการอาหารจะได้รับประกาศนียบัตรโครงการไม่ทอดซ้ำ และนำน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วมาขายให้บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด

ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทบางจาก เพื่อนำไปผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF เป็นการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการอาหารปลอดภัยและช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพและคุณค่าทางโภชนาการของอาหารที่รับประทานมากขึ้น

ภายในงาน แบรนด์อาหารพันธมิตร ได้แก่ S&P มาดามแม่ในเครือนารา ไก่ห้าดาว Hong Bao รวมถึงไก่ทอดเดชา และกล้วยแขกพระราม 5 ตัวแทนร้านอาหารชื่อดังที่อยู่ในสถานีบริการบางจากหลายสาขา นำอาหารทอดประเภทต่าง ๆ มานำเสนอความอร่อยให้ผู้ร่วมงานและเป็นตัวอย่างร้านอาหารที่ร่วมรณรงค์ไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ

ร่วมสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีและความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคด้วยการปรุงอาหารจากน้ำมันที่ปลอดภัย ส่งต่อสุขภาพที่ดี สร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในเศรษฐกิจหมุนเวียน – เศรษฐกิจชีวภาพ – เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy)  สร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ร่วมโลกลดร้อนและสร้างโลกที่ยั่งยืน

ธรรมรัตน์ ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

นายธรรมรัตน์เปิดเผยว่า ปัจจุบันเราสามารถรวบรวมน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว ไขมันสัตว์ในกระบวนการผลิตและไขมันในบ่อน้ำทิ้งได้ 500,000 ลิตรต่อวัน หรือ 15 ล้านลิตรต่อเดือน จากเป้าหมายที่ 1 ล้านลิตรต่อวันโดยคาดว่าจากความร่วมมือในโครงการ “ไม่ทอดซ้ำ” จะช่วยรวบรวมปริมาณน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วเพิ่มเป็น 700,000 ลิตรต่อวัน

โดยน้ำมันใช้แล้วที่รวบรวมได้ในปัจจุบันจะจำหน่ายไปยังหลายประเทศที่ต้องการใช้เพื่อผลิต SAF รวมถึงในอนาคตเราวางแผนที่จะรวบรวมน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ลาว และกัมพูชา เพื่อสร้างศูนย์กลางการผลิต SAF ของอาเซียน 

“ส่วนประเด็นความคืบหน้าหน่วยผลิต SAF ซึ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ตอนนี้ได้ตอกเสาเข็มเสร็จเป็นที่เรียบร้อย กำลังอยู่ระหว่างรอชิ้นส่วนประกอบจากโรงงานต่างประเทศ คาดว่าจะสามารถผลิตน้ำมัน SAF หยดแรกได้วันที่ 31 มีนาคม 2568 ตามประกาศขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่ระบุให้มีสัดส่วน SAF ผสมกับน้ำมันเครื่องบินอยู่ที่ 2% ซึ่งตอนนี้หลายประเทศในเอเชีย อย่างสิงคโปร์ ญี่ปุ่นก็เริ่มทำแล้ว” 

น้ำมันที่ปลอดภัยต่อการบริโภคต้องมีปริมาณสารโพลาร์ไม่เกิน 25% ของน้ำมัน

นอกจากนี้เรายังได้วางโครงข่ายโลจิสติกส์ที่จะรับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วครอบคลุมทั่วประเทศ ด้วยบุคลากรกว่า 1,000 คน รวมถึงสถานีบริการกว่า 162 จุดที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยสามารถเช็กรายชื่อได้ ที่นี่ โดยราคารับซื้อจะขึ้นอยู่กับกลไกราคา อย่างสมมติ ใช้บริการรับซื้อที่บ้านจะตกลิตรละ 15 บาท หรือถ้าร้านค้าหรือร้านอาหารที่มีปริมาณการใช้น้ำมันต่อวันเยอะก็จะตกลิตรละ 25-26 บาท