เปิดเผยต้นตอ “กากแร่แคดเมียม” 15,000 ตัน สารก่อมะเร็งที่พบจากการทำเหมืองแร่สังกะสี กพร.เผยมั่นใจมาจาก “เหมืองแร่บริษัทผาแดง” จ.ตาก หลังปิดกิจการไปแล้ว เมื่อปี 2560 เปลี่ยนชื่อเป็น “เบาด์ แอนด์ บียอนด์” ต้นตอของเรื่องทั้งหมด เร่งส่งกลับพื้นที่เดิมตาม EIA ยืนยันในไทยไม่มีเหมืองแร่สังกะสี ตะกั่ว ทองแดงแล้ว
วันที่ 7 เมษายน 2567 จากกรณีที่มีการตรวจพบกากแร่แคดเมียม สารอันตราย ของบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร และเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
รวมถึงผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงอุตสาหกรรมได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าบริษัทแห่งนี้ประกอบกิจการหลอมหล่ออะลูมิเนียมแท่ง อะลูมิเนียมเม็ด จากเศษอะลูมิเนียม และตะกรันอะลูมิเนียม (SCRAP AND DROSS) มีการเก็บกากแร่แคดเมียมและกากสังกะสีจำนวน 2,440 ตัน
ต่อมาในวันที่ 6 เมษายน 2567 ได้มีการรายงานถึงการตรวจพบถุงบิ๊กแบ็กจำนวนมาก กระจายอยู่ในพื้นที่โรงเรือน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลคลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี คาดว่าจะเป็นกองกากแคดเมียมที่มาจากโรงงานที่สมุทรสาครจำนวน 4,200 ถุง น้ำหนักประมาณ 6,720 ตัน
โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดอายัดไว้ และเตรียมส่งกลับจังหวัดตากโดยด่วนภายใน 7 วัน รวมถึงให้ฝังกลบภายใน 15 วัน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม
นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กากแร่แคดเมียมเป็นแร่โลหะหนักชนิดหนึ่ง ที่พบจากการทำเหมืองแร่สังกะสี ตะกั่ว และทองแดง ซึ่งในอดีตพื้นที่ จ.ตาก มีการทำเหมืองแร่สังกะสีและมีโรงประกอบโลหกรรม ของ “บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)” และแน่นอนว่ากากแร่ดังกล่าวจะมาจากเหมืองแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม เหมืองแร่สังกะสีผาแดง ประทานบัตรขุดแร่ได้หมออายุไปแล้ว และปัจจุบันในประเทศไทยไม่มีการทำเหมืองสังกะสี ตะกั่ว และทองแดงแล้ว ทั้งนี้ ส่วนที่ต้องนำกลับไปฝังกลบในพื้นที่โรงงานเดิมนั้น เพราะต้องปฏิบัติตาม EIA
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่าบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ PDI ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2524 และได้รับสัมปทานเหมืองผาแดงเมื่อปี 2525 เพื่อดำเนินการธุรกิจเหมืองแร่และผลิตโลหะสังกะสีอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย มีกำลังการผลิตสังกะสีและอัลลอยรวมกัน 110,000 เมตริกตัน มีเหมืองสังกะสีอยู่ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ต่อมาปี 2527 ได้เพิ่มโรงถลุงแร่ขึ้นที่จังหวัดตาก และปี 2538 ก่อตั้งโรงย่างแร่ที่จังหวัดระยอง
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2530 ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และด้วยวัตถุดิบจากเหมืองที่แม่สอดลดลง จึงปิดกิจการเหมืองแร่สังกะสี รวมถึงโรงย่างแร่ที่จังหวัดระยองเมื่อปี 2560 จากนั้นได้เริ่มดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ ด้านพลังงานทดแทน เช่น
พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานชีวมวล รวมถึงได้ลงทุนเพื่อดำเนินธุรกิจรีไซเคิล ธุรกิจการจัดการกากของเสีย และธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มจากโลหะต่าง ๆ และเปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน)” เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 โดยเดินหน้ารุกธุรกิจโรงแรม
ดังนั้น นับตั้งแต่ปี 2560 “บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน)” หรือ “ผาแดงอินดัสทรี” เดิม การดำเนินกิจกรรมด้านสังกะสีจะเป็นการรีไซเคิลทั้งหมด โดยมีแหล่งวัตถุดิบจากในประเทศและอาจจะนำเข้า