นภินทร รมช.พาณิชย์ หารือรองนายกเทศมนตรีเมืองฉงจั่ว ของจีน ติดตามสถานการณ์ขนส่งผลไม้ไทยผ่านด่านเวียดนามเข้าสู่จีน โดยช่วงเดือน พ.ค. – มิ.ย. ผลไม้ไทยกำลังจะออกสู่ตลาด พร้อมสั่งทูตพาณิชย์เวียดนามและจีน หากพบปัญหาติดขัดเร่งแก้ไขแจ้งผู้ประกอบการพิจารณาใช้เส้นทางที่เหมาะสม
วันที่ 28 เมษายน 2567 นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมหารือกับรองนายกเทศมนตรีเมืองฉงจั่ว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ว่า ผลผลิตผลไม้ไทยปี 2567 เลื่อนมาออกในเดือนพฤษภาคม โดยเฉพาะทุเรียนของภาคตะวันออกและภาคใต้
- เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ที่โดดเด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์
- กรุงไทย ปิดระบบ-แอป Next 11-12 และ 14 พ.ค. นี้ เช็กรายละเอียด
- เปิดทรัพย์สิน-งบการเงิน “มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล” ย้อนหลัง 5 ปี
อีกทั้งผลผลิตไทยยังออกตรงกับทุเรียนของเวียดนาม ทำให้การออกในเดือนมิถุนายนนี้ ผลผลิตในตลาดจะมีปริมาณมาก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เป็นห่วงสถานการณ์การกระจายสินค้าในประเทศและการส่งออกไปต่างประเทศโดยเฉพาะ ทุเรียน ที่จะถูกส่งออกไปสู่ประเทศจีน
เพราะฉะนั้นในช่วงที่ผลผลิตออกมาปริมาณมาก ทำให้การขนส่งไปยังประเทศจีนอาจติดขัด และเกิดปัญหาขึ้นได้ กระทรวงพาณิชย์จึงได้ติดตาม การขนส่งผลไม้จากไทยผ่านเวียดนามและเข้าสู่ประเทศจีนที่เมืองฉงจั่ว ผ่าน 2 ด่านสำคัญของเวียดนาม คือ ด่านหูหงิ ซึ่งขนส่งทางรถยนต์ และเป็นเส้นทางที่ค่าใช้จ่ายในการขนส่งถูกที่สุด และอีกด่าน คือ ด่านรถไฟด่งดัง เข้าด่านรถไฟผิงเสียงของจีน
อีกเส้นทาง คือ ขนส่งผ่านเส้นทางเรือ ที่ออกจากท่าเรือแหลมฉบังไปยังประเทศจีน ได้แก่ ท่าเรือกวางโจว ท่าเรือชินโจว ท่าเรือเสินเจิ้น ท่าเรือฮ่องกง
“การนำคณะผู้บริหารมาสำรวจเส้นทางขนส่งเวียดนาม จากแรก คือ ด่านหูหงิ และด่านรถไฟด่งดัง พบว่าการขนส่งโดยรถไฟยังมีความสามารถในการขนส่งได้อีก เนื่องจากว่าสามารถส่งได้วันประมาณ 6 ขบวน ขบวนหนึ่งประมาณ 25 ตู้ ซึ่งปัจจุบันใช้ไปเพียง 2 ตู้ ส่วนทางด่านหูหงิ ซึ่งเข้าสู่ประเทศจีน ทางด่านโหย่วอี้กวน ซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดซึ่งแต่เดิมก็สามารถขนส่งได้ในวันประมาณ 150 ตู้
ในขณะนี้ได้มีการขยายขยายเพิ่มขึ้นเป็น 250 ตู้ และการพูดคุยกับทางด่านหูหงิ โดยลางเซินของประเทศเวียดนาม และฉงจั่วประเทศจีนจากการหารือจะพยายามขยายเวลาและขยายการตรวจเพื่อให้การขนส่งผลไม้ไทยเข้าสู่ประเทศจีนได้เร็วขึ้น”
อย่างไรก็ดี ในเดือนพฤษภาคม 2567 คาดว่าจะมีผลไม้ของไทยจะเริ่มออกสู่ตลาด คาดว่าจะมีถึง 900 ตู้ในบางวัน จึงได้สั่งการให้ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือ ทูตพาณิชย์เวียดนามและทูตพาณิชย์จีน ประสานงานกับกระทรวงเกษตรเพื่อรับทราบข้อมูลสินค้าเกษตรทั้งหมดที่ผ่านด่านของประเทศไทยออกมาทางบกเข้าสู่เวียดนาม ว่ามีปริมาณเท่าใดในแต่ละวันทั้งด่านเวียดนามและด่านจีนเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถตัดสินใจได้ว่าควร จะขนสินค้ามาในช่วงเวลาใด
ในขณะเดียวกัน ควรจะใช้เส้นทางขนส่งมาทางบกหรือทางเรือ เพื่อช่วยกระจายสินค้าออกได้สะดวก จะได้ประสานงานกับด่านโหย่วอี้กวน ของประเทศจีนในช่วงเวลาที่รถคับคั่งบริเวณหน้าด่าน เพื่อทางฉงจั่วจะขยายเวลาและเพิ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้สินค้านั้นผ่านไปได้เร็วขึ้น เพื่อลดการแออัดของการขนส่ง เพราะสินค้าผลไม้เป็นสินค้าที่มีอายุ หากปล่อยไว้นานอาจสร้างคงามเสียหายให้กีบสินค้า
ทั้งนี้ ปริมาณทุเรียนไทยส่งออก ไปยังประเทศจีนในปีที่ผ่านมา ปี 2566 ปริมาณ 99.5% ของปริมาณที่ส่งออกทั้งหมด และผลผลิตมังคุด 96.4% ของปริมาณที่ส่งออกทั้งหมด
